ข่าว'หญิงหน่อย'ยืนหนึ่งไม่หวั่น'ชัชชาติ' เมินซูเอี๋ยปชป. - kachon.com

'หญิงหน่อย'ยืนหนึ่งไม่หวั่น'ชัชชาติ' เมินซูเอี๋ยปชป.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ม.ค. ที่ศาลาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายอนุสรณ์ ปั้นทอง อดีตส.ส.เขตบางเขต พรรคเพื่อไทย และคณะร่วมกันทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่  โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความชัดเจนหากพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ว่า ถ้าเป็นไปตามที่ประกาศไว้ว่าพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ม.ค.นี้ เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้นความชัดเจนในการปฎิบัติหน้าที่เป็นเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการหรือเป็นรัฐบาลรักษาการจะไม่มีอำนาจในการใช้งบประมาณและไม่มีอำนาจในการโยกย้ายข้าราชการ โดยทำหน้าที่ปฎิบัติงานตามวาระประจำเท่านั้น เพื่อให้งานของแต่ละกระทรวงขับเคลื่อนไปได้ในระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ทั้งนี้เหตุที่รัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจในการใช้งบประมาณและไม่มีอำนาจในการโยกย้ายข้าราชการ เพราะอาจไปเข้าข้างพรรคของตนเองหรือพรรคที่จะสนับสนุนตนเอง โดยในอดีตที่ผ่านมาการเลือกตั้งทุกครั้งก็วางหลักเกณฑ์แบบนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ครั้งนี้แปลกประหลาดกว่าทุกครั้ง เพราะมีการให้อำนาจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบอำนาจเต็ม เหมือนกับไม่ได้อยู่ในช่วงการเลือกตั้ง รวมทั้งยังมีมาตรา 44 ทำให้เกิดความกังวลต่อความเชื่อมั่นทั้งคนไทยและนานาประเทศที่มีต่อการเลือกตั้ง เพราะอำนาจการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ และไม่ยุติธรรม ทำให้คนในประเทศและนานาชาติไม่เชื่อมั่น ละไม่ยอมรับก็จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าประเทศและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมพล.อ.ประยุทธ์ และคสช. ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม รวมถึงอำนาจที่ตนเองถืออยู่อย่างมากมายจะทำอย่างไรที่ไม่ใช้อำนาจเหล่านั้นมายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งที่ผ่านมาหลายสิบรัฐบาลก็จะเป็นรัฐบาลรักษาการที่มีกติกา และมีมารยาท ไม่ใช้อำนาจโยกย้าย และไม่ใช้งบประมาณในทางที่ให้เกิดความนิยมกับคะแนนเสียงของตนเอง แต่ครั้งนี้กลับทำได้หลายอย่างและมีมาตรา 44 ด้วย


เมื่อถามถึง กระแสข่าวการเลื่อนเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะเกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะประชาชนต้องการเลือกตั้ง ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงมีกระแสข่าวนี้ และก็รอฟังความชัดเจนอยู่เหมือนกัน คาดว่าหลังจากนี้คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ไม่เคยติดต่ออะไรมา หากมีการเลื่อนการเลือกตั้งคิดว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากพรรคการเมือง คนที่รอการเลือกตั้งคือประชาชนส่วนใหญ่ และเชื่อว่าจะเกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกับผู้ค้าผู้ลงทุนอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าหากพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งยังไม่ประกาศจะเป็นสัญญาณว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คงต้องรอดูความชัดเจนก่อน



เมื่อถามถึง กรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะไปจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้ไปพูดคุยนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวโดยสีหน้างง ว่า ไม่มีการพูดคุยกับใครใดๆ มีข่าวแบบนี้ด้วยเหรอ ตนไม่ได้พูดคุยใดๆกับใครเลย เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ ขณะนี้ต้องเสนอนโยบายให้กับประชาชน และยังยืนยันว่าตนไม่ทราบเรื่อง เพราะหลายคนต้องทำหน้าที่หาเสียงก่อน ส่วนในอนาคตจะมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น ทางเราคงลำบากใจ เพราะพรรคเพื่อไทยอยากให้เกิดการคืนประชาธิปไตย เพื่อให้หมดข้อกังขาและให้ผู้ค้าต่างประเทศรวมถึงนักลงทุนกระเตื้องขึ้นได้ โดยมีทางเดียวคือความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล ดังนั้นคนที่เราจะทำงานด้วยต้องเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้สนับสนุนอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ และไม่เป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุนคสช.


เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ถูกวางให้อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย แทน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กระแสข่าว แต่เราได้พูดคุยกันในพรรคแล้ว โดยตนกับนายชัชชาติ จะทำงานด้วยกันและส่งเสริมซึ่งกันและกัน.