ข่าวโคราช! ครองแชมป์ดับสูงสุด 14 รายช่วงปีใหม่ 62 - kachon.com

โคราช! ครองแชมป์ดับสูงสุด 14 รายช่วงปีใหม่ 62
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ม.ค.ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธ.ค. 61 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ ''ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร'' เกิดอุบัติเหตุ 569 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 72 ราย ผู้บาดเจ็บ 591 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 44.82 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 29.88 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.62 รถปิกอัพ 6.24 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.58 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.84 ถนนใน อบต.หมู่บ้าน ร้อยละ 36.20 ช่วงเวลา ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 31.28 ทั้งนี้ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,049 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,867 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 959,097 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 194,173 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 51,811 ราย ไม่มีใบขับขี่ 47,150 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน23 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีจังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 27 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วันตั้งแต่วันที่ 27 - 31 ธ.ค.61 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,761 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 314 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,848 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์มี 10 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ จำนวน 91 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา จำนวน 14 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 96 คน 



นพ.ประพนธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก ทำให้เส้นทางสายหลักจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่กทม.และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดมีปริมาณรถหนาแน่น ประกอบกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อาจทำให้ผู้ขับขี่มีอาการอ่อนล้า จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับใน ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการปฏิบัติงานของจุดตรวจบนเส้นทาง สายหลัก สายรอง ทางลัด และทางเลี่ยงเมือง เพื่อชะลอความเร็วรถ และประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ พร้อมดูแลจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางตรงระยะทางยาวที่ผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน รวมถึงให้คุมเข้มความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ โดยเพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง นอกจากนี้ให้จังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งระบายรถ เปิดช่องทางพิเศษ และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น ตลอดจนเตรียมความพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

“ปีนี้ถือว่าแนวโน้มจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุลดลง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บลดลงด้วยเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา สาเหตุหนึ่งเพราะเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันกับกรณีเมาแล้วขับโดยมีการป้องปรามอย่างเข้มงวด ทำให้มีคนเมาแล้วขับลดลง จนเป็นที่น่าชื่นใจ จากการดำเนินงานตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 อุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มแล้วขับลดลงร้อยละ 19 ผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับลดลงร้อยละ 9.94 โดยเฉพาะในกลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปีลดลงถึงร้อยละ 19.12 เมื่อเทียบกับปีใหม่ 61” นพ.ประพนธ์ กล่าว


ขณะที่นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในวันนี้ (1 ม.ค.62) บางพื้นที่ ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองและงานรื่นเริง ศปถ. จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการมาตรการทางสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านชุมชนเข้มข้นการเฝ้าระวัง ตรวจตรา และป้องปรามผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงให้เข้มข้นการดูแลเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ ซึ่งประชาชนใช้เป็นทางลัดออกสู่ถนนสายหลัก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น

ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศปถ. กล่าวว่า ขอฝากเตือนประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สร้างความปลอดภัยบนเส้นทางสายต่างๆ พร้อมยึดหลัก “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถ เมื่อมีอาการง่วงนอนให้จอดพักรถตามจุดบริการต่างๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย และเริ่มต้นปีใหม่ 62 ด้วยความสุขและความปลอดภัย.