กรมชลฯพร้อมรับมือ 'ปาบึก'ขึ้นฝั่งนครฯค่ำพรุ่งนี้ (4 ม.ค.)
การเมือง
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่เตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำรับผิดชอบมี 51 แห่ง ใน 188 หมู่บ้านได้แก่ ในอ.ลานสกา 4 แห่ง อ.ฉวาง 5 แห่ง อ.ท่าศาลา 2 แห่ง อ.พิปูน 7 แห่ง อ.พรหมคีรี 2 แห่ง อ.สิชล 2 แห่ง อ.ร่อนพิบูลย์ 3 แห่ง อ.บางขัน 4 แห่ง อ.นบพิตำ 3 แห่ง อ.จุฬาภรณ์ 1 แห่ง อ.ทุ่งสง 5 แห่ง อ.ขนอม 2 แห่ง อ.ช้างกลาง 2 แห่ง และ.เมือง 1 แห่ง
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 29 แห่ง โดยพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากได้แก่ อำเภอชะอวด 10 แห่ง บางขัน 2 แห่ง หัวไทร 4 แห่ง เชียรใหญ่ 1 แห่ง จุฬาภรณ์ 2 แห่ง ช้างกลาง 1 แห่ง ทุ่งสง 3 แห่ง และร่อนพิบูลย์ 2 แห่ง อีกทั้งมีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม 6 แห่งในอ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งสง อ.ช้างกลาง อ.ลานสกา อ.นบพิตำ และอ.สิชล
นายทองเปลว กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ทั้งส่วนกลางและสำนักชลประทานที่ 14 15 16 และ17 ติดตามสถานการณ์น้ำ ทิศทางและความรุนแรงของพายุ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ 16 จังหวัดภาคใต้และรายงานตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงได้เร่งพร่องน้ำทั้งในอ่างเก็บน้ำและลำน้ำต่างๆ ไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ หากอ่างเก็บน้ำใดมีแนวโน้มจะล้น ให้เร่งพร่องน้ำออก โดยมีอ่างขนาดใหญ่ 1 แห่ง ได้แก่อ่างฯปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอ่างขนาดกลางอีก 15 แห่งในจังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีและสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งดูแลอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ให้พร่องน้ำด้านท้ายของลำน้ำเพื่อให้สามารถระบายน้ำจากฝนที่ตกลงมาได้สะดวก.