ข่าว'มาร์ค'เชื่อคนไทยอยากมีพระราชพิธีที่สมพระเกียรติ ไร้การเมือง - kachon.com

'มาร์ค'เชื่อคนไทยอยากมีพระราชพิธีที่สมพระเกียรติ ไร้การเมือง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงห้วงเวลาที่เหมาะสมหากจะมีการเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้ง หลังจากการหารือระหว่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีข้อสรุปว่าจะเกิดขึ้นก่อนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ว่า  ทุกคนต้องการมีพระราชพิธีที่สมพระเกียรติและมีบรรยากาศที่ดี อีกทั้งบรรยากาศในช่วงเดือน เม.ย.และพ.ค.นี้ ต้องจบเรื่องการเลือกตั้งไปแล้ว เพื่อไม่ให้มีประเด็นเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง  ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องรอให้ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมาก่อน และเมื่อบังคับใช้แล้ว จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งออกมาภายใน 60 วัน ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ว่าสิ่งที่นายวิษณุพูดว่าอยากให้เป็นวันนั้นวันนี้นั้นเป็นความเห็นของรัฐบาลหรือตัวเขาเอง แต่มันต้องเป็นไปตามกฎหมาย  อย่างไรก็ตามยังเป็นขั้นตอนที่อยู่ในระหว่างที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ทุกคนจึงควรรอพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวออกมาก่อน จากนั้น กกต.ต้องพิจารณาว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งอย่างไร

ส่วนที่การคาดคะเนว่าวันเลือกตั้งอาจจะเป็นวันที่ 10 มี.ค. หรือ 24 มี.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดเห็นของนายวิษณุเป็นความกังวลกระบวนการหลังการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่กระบวนการหลังการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่กกต.ต้องพิจารณา สมมติว่าถ้าการเลือกตั้งยังมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. คาดว่าจะสามารถรับรองส.ส.ได้ภายในกี่วัน เมื่อรับรองเสร็จสิ้น ต้องเรียกประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน จากนั้นรัฐสภาจะประชุมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี หรือจะตั้งรัฐบาล ก็สามารถดูได้ว่าจะใช้เวลาภายในกี่วัน ซึ่งมีหลายทางเลือก และจังหวะเวลาที่เลือกต่างกันแค่ 15 วัน เพราะถ้าพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวลงมาวันไหน จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60 วัน

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบเขต ว่า เราได้อนุมัติรายชื่อผู้สมัครส.ส.เขตไปแล้ว 340 เขต ยังเหลือประมาณ 10 เขต ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 6 ม.ค.นี้ จากนั้นจะดูเรื่องผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 150 คน เพราะเดิมมีอยู่แล้ว 128 คน  ส่วนการจัดโปรแกรมปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนั้น เราต้องรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงรอระเบียบของกกต.เรื่องการจัดทำป้ายและติดป้ายหาเสียง เพราะยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา  แต่ค่าใช้จ่าย 35 ล้านบาทสำหรับการทำรณรงค์ทั่วประเทศมีข้อจำกัดมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของโซเชียล  และต้องนำงบประมาณส่วนนั้นมารวมกับการทำป้ายด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคกังวล เพราะเดิมที่มีการประชุมพรรคการเมืองตกลงกันอยู่ที่ 70 ล้านบาท.