ข่าวปภ.เข้มเกาะติดพายุ'ปาบึก' รับรุนแรงไม่แพ้พายุแฮเรียต - kachon.com

ปภ.เข้มเกาะติดพายุ'ปาบึก' รับรุนแรงไม่แพ้พายุแฮเรียต
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) มีการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บกปภ.ช.) เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมการเผชิญเหตุพายุโซนร้อนปาบึก โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา และพล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เข้าร่วมติดตามสถานการณ์และรับฟังรายงานสถานการณ์ รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(ผบ.บกปภ.ช.) ประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ไปยังผวจ. 14 จังหวัดภาคใต้ และอีก 2 จังหวัด คือ จ.เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

โดยนายพลากร กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งจ.เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ และขอให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก พร้อมกันนี้เมื่อวันที่ 16 ม.ค.60 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกระแสรับสั่งหลายประการ โดยเฉพาะการเตรียมแผนป้องกัน บรรเทา ฟื้นฟู เผชิญเหตุ และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกรูปแบบ และพายุลูกนี้ น่าจะมีความรุนแรงไม่แพ้ พายุแฮเรียต ที่เข้าถล่มแหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2505 และต่อจากนั้นเป็นพายุเกย์ ดังนั้นการมาวันนี้เพื่อมาเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจผู้รับผิดชอบ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งผวจ.ภาคใต้ รวมถึงจ.เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ และทีมงานในพื้นที่ภาคใต้

ด้านพล.อนุพงษ์ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ เพื่อให้ปภ.จังหวัดได้ประเมินว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร โดยนโยบายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขณะนี้ไม่ใช่แค่แจ้งเตือนเท่านั้น เมื่อถึงการตัดสินใจที่จะต้องดำเนินการ เช่น การห้ามเรือออกทะเล การเตรียมอพยพประชาชนกรณีดินถล่ม จะต้องรับข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ และแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบทันที ตนขอย้ำว่าทุกหน่วยงานในพื้นที่ต้องบูรณาการงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพราะข้อมูลโดยละเอียดแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน



ขณะที่นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวรายงานในที่ประชุมว่า พายุปาบึก ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งที่ อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เวลา 12.45 น. ความเร็วลม 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุปาบึกจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่นในคืนนี้ และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมจ.สุราษฎร์ธานี ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากเป็นบริเวณกว้างในหลายจังหวัด ส่วนสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดสถานการณ์ถือว่าเบาบางลง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมพื้นที่ภาคใต้ ยังต้องเฝ้าระวังฝนต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช ลงมาถึง จ.พัทลุง และจ.สงขลา ขณะที่ตอนบน มีบางส่วนขึ้นไปทางจ.ชุมพร ส่วนซีกตะวันตกขยับไปที่จ.พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ขณะนี้จังหวัดสตูล สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่พายุปาบึกเคลื่อนไปทางทะเลอันดามัน

นายภูเวียง กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ของพายุปาบึก หลังจากที่เคลื่อนจากจ.สุราษฎร์ธานี ลงไป จะเข้าไปแนวรอยต่อจ.พังงา และจ.ระนอง แต่แนวโน้มจะรวมมาที่จ.พังงามากกว่า จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 5 ม.ค.คาดว่ากำลังพายุจะเคลื่อนลงไปในทะเลอันดามัน และขยับออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นในวันที่ 6 ม.ค.นี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายทั้งหมด ฝนจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจน รวมถึงคลื่นลมจะอ่อนตัวลง แต่จากการประเมินปริมาณฝนที่ตกลงมาเมื่อช่วงเช้าที่จ.ปัตตานี มีปริมาณ 200 มิลลิเมตร ซึ่งลักษณะเช่นนี้คาดว่าพายุปาบึก จะผลิตน้ำในเทือกเขาของจ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี และพัทลุง ดังนั้นยังคงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีก 2 วัน คือวันที่ 6 ม.ค.และ 7 ม.ค.นี้ ซึ่งประชาชนยังไม่ปลอดภัยที่จะกลับเข้าไปในพื้นที่

ส่วนนายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กล่าวว่า สำหรับปริมาณฝนที่มีการคาดการณ์ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ จะมีฝนตกมากที่สุด และปริมาณฝนจะต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 6 ม.ค. และจะลดลงในวันที่ 7 ม.ค.นี้ ส่วนคลื่นทะเลจะส่งผลกระทบแค่วันนี้เท่านั้น และจะย้ายฝั่งไปยังทะเลแถบอันดามัน.