ข่าวร.10พระราชทานพระราโชบายให้ปชช.กลับไปใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว - kachon.com

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บกปภ.ช.) เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมการเผชิญเหตุพายุโซนร้อน “ปาบึก”ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงจ.เพชรบุรี และจ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ในภาพรวมผลกระทบจากพายุปาบึก ขณะนี้มีความเร็วอยู่ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ปริมาณฝนในพื้นที่มีจำนวน 100 - 200 มิลลิเมตรแล้วแต่พื้นที่ ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ หน่วยงานในพื้นที่ได้รับข้อมูลจากส่วนกลางตลอดเวลา เพื่อประเมินว่าควรจะดำเนินการอย่างไร หรือควรจะอพยพหรือไม่  รวมถึงควรนำเรือออกจากฝั่งหรือไม่  ซึ่งสถานการณ์โดยรวมอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ ยังไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นมากนัก  นอกจากเรือที่ล่มไปจำนวน 1 ลำ เนื่องจากพยายามกลับเข้าฝั่งจากจ.ปัตตานี ไปยังจ.สงขลา

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า  สิ่งสำคัญคือประชาชนให้ความร่วมมือดีมากช่วยกันลดความเสี่ยง  เชื่อฟังปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่ชี้แจง ขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล  หวังว่าต่อจากนี้คงจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงที่ทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนการกลับเข้ายังพื้นที่ภูมิลำเนาของประชาชนคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในวันที่ 7 ม.ค.นี้นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละพื้นที่ หากมั่นใจว่าไม่มีภัยเกิดขึ้นแล้ว  ขณะเดียวกันเรายังตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่  ทั้งนี้ ในส่วนของจ.นครศรีธรรมราช เราประเมินผู้ได้รับผลกระทบไว้ประมาณ 28,000 คน ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงตำบลละประมาณ 2-4 แห่ง รวมทั้งหมดในจ.นครศรีธรรมราชมี 100 กว่าแห่ง ได้นำประชาชนอพยพเข้าศูนย์พักพิงประมาณ 10,000 กว่าคน 

"การสำรวจการฟื้นฟูหลังเกิดเหตุการณ์ หลักๆมี 2 ด้าน คือ การดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราโชบายว่า ให้ประชาชนกลับไปมีชีวิตความเป็นอยู่ปกติโดยเร็วที่สุด ทางหน่วยเกี่ยวข้องน้อมนำไปปฏิบัติ  และจะต้องเร่งดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วน  ด้านการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพ ทางจังหวัด อำเภอจะต้องเร่งสำรวจตามหลักเกณฑ์ที่มี  ซึ่งนายกฯได้สั่งให้เร่งเยียวยา ช่วยเหลือโดยเร็ว ขณะนี้ในพื้นที่ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.