ข่าวรัฐบาลเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยชาวใต้โดนพายุปาบึกถล่ม - kachon.com

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ ตั้งแต่ เวลา 20.20 น. รัฐบาลร่วมมือกับทุกภาคส่วนจัดรายการพิเศษชื่อ “รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยใต้" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ MCOT HD หมายเลข 30 เพื่อรับบริจาคเงินผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-2450700-19 จำนวน 20 คู่สาย ไปจนถึงเวลา 22.00 น. และผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล บัญชีเลขที่ 067-0-06895-0 ชื่อบัญชี “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถบริจาคเงินได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุ“ปาบึก”อย่างเร่งด่วน นอกเหนือจากความช่วยเหลือที่ภาครัฐเข้าไปดำเนินการในขั้นต้นแล้ว

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ในเวลา 21.00 น.ของวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี จะมาร่วมรายการดังกล่าว เพื่อรับมอบเงินบริจาคด้วยตัวเอง.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดการเดินทางตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากพายุโซร้อนปาบึกที่จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ โดยเวลา 07.00น.นายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นเวลา09.00 น.นายกฯ และคณะออกเดินทางไปยังริมน้ำเมืองเก่าปากพนัง อ.ปากพนัง เพื่อพบปะจิตอาสาและปล่อยแถวจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ “Big Cleaning Day” ก่อนจะเดินทางไปสามแยกเนินตาขำ ต.บางพระ อ.ปากพนัง เพื่อมอบถุงยังชีพและพบปะผู้ประสบภัยจำนวน 2,000 คน พร้อมกับตรวจระบบเตือนภัยของกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าและเดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายบริเวณแหลมตะลุมพุก

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กนักเรียน และรับประทานอาหารที่โรงเรียนดังกล่าว ต่อมาในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางไปยังหมู่ที่ 1 ต.ปากนคร เทศบาล ต.ปากนคร เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะการซ่อม สร้างบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังจะมีการลงเรือข้ามฟากไปยังหมู่ที่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยริมคลองปากนคร ก่อนที่ในช่วงเย็น เวลา 16.50 น.นายกฯและคณะจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ.