ข่าวนายกสั่งท้องถิ่นซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคใน7วัน - kachon.com

นายกสั่งท้องถิ่นซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคใน7วัน
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะเดินทางมายังบ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำพวงหรีดมาเคารพศพนายปรีชา จันทร์แก้ว อายุ 69 ปี ซึ่งเสียชีวิตระหว่างทำหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน ขณะเกิดเหตุพายุโซนร้อนปาบึกพัดถล่ม



โดยได้เเสดงความเสียใจและกล่าวให้กำลังใจกับนางอำนวย จันทร์แก้ว ภรรยาของผู้เสียชีวิต และครอบครัว โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินช่วยเหลือและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลครอบครัวเพราะถือเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ ยอมเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อส่วนรวม



นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวทักทายและให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วยโดยย้ำว่ารัฐบาลกำลังเร่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ความเสียหายระดมกำลังพลจากกองทัพและหน่วยราชการอื่นๆซ่อมแซมความเสียหายอย่างเร่งด้วย โดยได้สั่งการให้ท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน สำหรับระบบสาธารณูปโภคต่างๆจะต้องซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายทั้งหลังจะต้องซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน 



นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนเองได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรู้สึกเป็นห่วงผู้ประสบภัยทุกคน การมาครั้งนี้จึงต้องการมาให้กำลังใจ ยืนยันว่าจะดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โอกาสนี้ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับราคายางพาราที่ตกต่ำว่ารัฐบาลมีมาตรการในการดูแลเกษตกร แต่คงไม่สามารถทำให้ราคายางสูงตามที่ทุกคนหวังได้เนื่องจาก ราคายางพาราในตลาดโลกตกต่ำและมีปริมาณยางในตลาดมาก ซึ่งขณะนี้ราคายางในประเทศไทยยังถือว่าสูงกว่าบางประเทศ จึงอยากให้ทุกคนอดทน ขณะที่ภาคการประมงย้ำว่าขอให้ชาวประมงปฎิบัติตามกฎหมายไอยูยู ซึ่งรัฐบาลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านที่ได้ผลกระทบจึงจะหามาตรการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอร้องผู้ได้รับความเดือดร้อนในอาชีพอย่าออกมาประท้วง เพราะรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาให้อยู่ และขออย่ารับฟังข้อมูลที่บิดเบือน



พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้ จากพายุปาบึก ว่า ขณะนี้แม้พายุปาบึกจะพัดผ่านประเทศไทยแล้ว แต่ยังเหลือพื้นที่ในจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ส่งหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) และทหารช่างลงพื้นที่ช่วยเหลือ เเละเข้าไปสำรวจดูความเสียหาย ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท



อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งทำการสำรวจความเสียหายและเยียวยาให้ครบทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก โดยที่จะต้องลงไปดูว่าประชาชนมีความต้องการหรือขาดแคลนสิ่งใดบ้าง ส่วนกรอบในการฟื้นฟู ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดแผนที่ชัดเจนแต่จะเร่งฟื้นฟูให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนเดิม ทั้งนี้ส่วนตัวพอใจภาพรวมในการเตรียมความพร้อมรับมือของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภัยพิบัติทุกคน