ชูยึดคืนสัมปทานป่าสงวนฯให้ชาวบ้านเช่าทำกิน
การเมือง
-
สนับสนุนเนื่อหา
-
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) เดินทางลงพื้นที่เพื่อเปิดสาขาพรรคประจำ จ.กระบี่ พร้อมพบปะและมอบนโยบาย ผู้สมัคร ส.ส. พรรครักษ์ผืนป่าฯ จ.สตูล กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง โดยมีสมาชิกพรรคมาร่วมให้การต้อนรับจำนวนมาก โดยนายดำรงค์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ และเป็นพื้นที่ที่มีปัญหามาก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องยางพาราและสวนปาล์มในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกครอบครองโดยนายทุน วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ต่อสู้กับนายทุน อยู่กับพรรคการเมืองเดิมมา 40-50 ปี ถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง นักการเมืองเข้ามาหาพวกท่านเพียงแค่ช่วงเวลาหาเสียง เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็ไปพาตำรวจมาจับ ถ้าวันนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงลูกหลานในอนาคตก็จะลำบาก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเลือกตัวแทนของพวกท่านเข้าไปแก้ปัญหาในสภา โดยพรรครักษ์ผืนป่าฯ จะแก้ปัญหาในพื้นที่ อ.ปลายพระยา เป็นพื้นที่แรกทำให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยการกระจายที่ดินป่าสงวนฯ ที่กรมป่าเปิดให้นายทุนเช่ามาอย่างยาวนานที่หมดสัญญาสัมปทานแล้วเป็นแสนๆ ไร่ มากระจายให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าไปเช่าพื้นที่ทำกินอย่างถูกต้อง โดยต้องตัดต้นปาล์มทิ้งให้หมด และหันมาสร้างป่าเพื่อเพิ่มรายได้ตามนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการผลักดันอยู่ และอาจจะแล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง
นายดำรงค์ กล่าวว่า ตนมาวันนี้ มีเพียงความตั้งใจและความรู้ที่จะแก้ปัญหาให้พวกท่าน และหากสามารถแก้ปัญหาในพื้นที่จ.กระบี่ได้ ก็จะเป็นต้นแบบเพื่อนำไปใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป ทั้งนี้นโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่า ลดสารเคมี สู้ภาวะโลกร้อนของพรรค จะเน้นการปลูกป่า 4 รูปแบบ ทั้งในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของประขาชน และพื้นที่ของรัฐที่ให้สิทธิประชาชนทำกินโดยมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป ซึ่งประชาชนจะมีรายได้จากเงินกองทุนคาร์บอนเครดิต ทั้งนี้ตนไม่เห็นด้วยกับการเอาต้นไม้เข้าธนาคารเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อ เพราะวันใดที่ท่านเอาต้นไม้เข้าธนาคารหากต้นไม้ตายลง หรือถูกลักลอบตัด ก็จะเป็นปัญหาทำให้เกิดหนี้เสีย หรือสูญเสียที่ดินในที่สุด.