'บิ๊กตู่'ให้โอวาทเด็กยึดปชต.-เข้าใจยุทธศาสตร์ชาติ
การเมือง
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้โอวาทว่า การกำหนดอนาคตไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมไทยที่จะต้องช่วยกันทำให้เด็กและเยาวชนไทยเป็นพลเมืองดี รักสามัคคี มีน้ำใจ รักประเทศชาติ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทุกคนจะต้องมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและประเทศชาติ ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด โดยต้องเลือกเรียนสิ่งที่จะมีงานทำในอนาคต เพื่อมีครอบครัวที่อบอุ่น มั่นคง มีรายได้เพียงพอ เด็กและเยาวชนจะต้องร่วมกันเป็นจิตอาสาช่วยพัฒนาประเทศชาติ ตามคำขวัญที่ตนมอบให้ อีกทั้งต้องช่วยกันรักษาความสงบสุข เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ประเทศไทยจะต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องยึดมั่นในจิตใจของเด็กทุกคน
นอกจากนี้ เรามุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้อย่างน้อย 2 ภาษา เพราะทุกวันนี้มีหลากหลายอาชีพที่ต้องพึ่งการใช้ภาษา เยาวชนยังต้องเรียนรู้วัฒนธรรมเพื่อนบ้าน และวัฒนธรรมสากล ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ วันนี้เราเริ่มรับผิดชอบในฐานะประธานอาเซียนแล้ว จึงเป็นงานของเราทุกคนที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้การเป็นประธานครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ค่านิยม 12 ประการ ปลูกฝังให้ทุกคนมีหลักคิด เพื่อประโยชน์สุขของครอบครัว สังคม เราต้องทำให้สังคมสู่ความสงบและมีสันติ ยุติความขัดแย้งโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แม้บางคนอาจมองว่าการปฏิรูปศึกษายังไม่มีความคืบหน้า แต่ตนยืนยันว่ามีความเปลี่ยนแปลง เพราะทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในวันเดียวได้ วันนี้เรามีแผนพัฒนาประเทศ 20 ปี เป็นครั้งแรกของประเทศไทย บางคนอาจมองว่ายาวไป แต่เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นขั้นเป็นตอน ปฏิรูปตามห้วงเวลาที่กำหนด จึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ ขอให้เยาวชนช่วยกันทำความเข้าใจในยุทธศาสตร์ชาติด้วย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะต้องชี้แจงให้เด็กเข้าใจว่าเขาอยู่ส่วนไหนในยุทธศาสตร์ชาติ หลายคนบอกว่าทำไมไม่นำงบประมาณมาเติมให้กระทรวงศึกษาธิการและระบบสาธารณสุขทั้งหมด แต่ถามว่าจะไม่นำงบฯไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆบ้างหรือ เพราะเราต้องพัฒนาหลายส่วนไปด้วยกัน จึงอย่าคิดอย่างนั้น เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ความรู้สึกไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราจะขัดแย้งกันอีกไม่ได้
“ในเรื่องคดีต่างๆ มีการสอบสวนกันไปมา จะเห็นว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นเพราะนายกฯไปสั่งการ แต่ปล่อยให้ทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ประเทศไทยต้องไม่ใช่สังคมแห่งความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท ต้องไม่ใช่สังคมที่รวมกลุ่มประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศชาติทั้งสิ้น เราจำเป็นต้องสร้างความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้ได้โดยเร็วที่สุด วันนี้เรากำลังพูดถึง 5 จี แต่ก็ยังมัวมาทะเลาะกันเรื่อง 1 จี คือเรื่องเดิมๆ ประเทศชาติจะเดินหน้าได้อย่างไร หากบ้านเมืองไม่มีความวุ่นวาย เราก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ หากทุกคนไม่ชอบความวุ่นวาย จะต้องช่วยกันทำ ไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น หวังว่าทุกคนจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือด้านสุขภาพ จะเห็นว่าเด็กและเยาวชนที่มาในวันนี้อวบไปหน่อย ดังนั้นขอให้ออกกำลังกายด้วย อย่าคิดว่าไปหาหมอแล้วไม่เสียเงิน ก็จ้องจะไปหาหมออย่างเดียว แต่ควรทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อที่จะไม่ต้องไปหาหมอ ต้องออกกำลังกายตามความเหมาะสม อย่าเล่นเกมและโทรศัพท์มาก หากใครอยากสวย หล่อ สูงล่ำ ต้องออกกำลังกาย เช่นเดียวกันกับการศัลยกรรม ทำหน้าทำจมูกที่บางครั้งทำจนเกินเลย จนจำหน้าตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนมีความสวยและความหล่ออยู่แล้ว ซึ่งอยู่ที่จิตใจและความประพฤติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมถ่ายภาพกับเด็กและเยาวชน รวมถึงร่วมถ่ายภาพเซลฟี่กับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆอย่างคึกคัก ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า.