ปูพรม 22 จังหวัด เช็กเรือประมง 571 ลำป้องสวมสิทธิ
การเมือง
สำหรับเกณฑ์การประเมินเพื่อรับค่าชดเชยในการนำเรือประมงออกนอกระบบนั้น จะประเมินจากโครงสร้างของเรือ โดยเกณฑ์การให้น้ำหนักคะแนนแต่ละโครงสร้าง จะพิจารณาจากสภาพไม้และปริมาณไม้ที่ใช้ในการประกอบเป็นโครงสร้างแต่ละส่วน จำนวน 4 ส่วน ได้แก่ 1. เปลือกเรือ 2. พื้นเรือ – ดาดฟ้า 3. กงเรือ – กระดูกงู และ 4 เก๋งเรือ นอกจากนี้ เรือประมงดังกล่าว จะต้องแสดงหลักฐานรายละเอียดของเรือประมง อาทิ อัตลักษณ์ การตรึงพังงา สถานที่จอดเรือ เพื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายเมื่อปี 2558 หรือปี 60 เพื่อยืนยันการมีอยู่จริงและป้องกันการสวมสิทธิ์ของเรือประมงที่จะนำออกนอกระบบ โดยการประเมินค่าชดเชย จะคำนวณจากราคาอ้างอิง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558
ทั้งนี้ การประเมินสภาพเรือประมงที่จะนำออกนอกระบบ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มกราคมนี้ หลังจากนั้น คณะทำงานประเมินราคาฯ จะจัดทำสรุปผลการประเมินราคาเรือเป็นรายลำ และรวบรวมสรุปจำนวนเรือและราคาประเมินทั้งหมด เสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากเจ้าของเรือประมงที่ประสงค์นำเรือออกนอกระบบที่มีจุดจอดเรือ ณ จังหวัดต่างๆ เร่งติดต่อกับสำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ เพื่อให้การปฏิบัติดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากมีข้อสงสัยติดต่อศูนย์ประสานงานการนำเรือออกนอกระบบ โทร. 0 2561 0543 และสำนักงานประมงจังหวัดชายทะเลทุกจังหวัด “รองอธิบดีกรมประมงกล่าว.