จ่อชงคกก.โรคศิลปะตีความ'ค่ายา'เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาหรือไม่
การเมือง
"ส่วนค่ายาในโรงพยาบาลหรือคลินิกต่างๆ นั้น ทาง รพ.เอกชนอยากให้คณะกรรมการประกอบโรคศิลปะตีความว่า จัดเป็นส่วนหนึ่งของการบริการรักษาหรือไม่ เพราะมองว่าจะต้องมีการตรวจร่างกาย มีการวินิจฉัย มีอาการอย่างไร ผลแล็บอย่างไร จ่ายยาอย่างไร ความแรงเท่าไร จำนวนเท่าไร ถึงจะป้องกันโรคได้ แล้วนัดมาดูอาการ เป็นลักษณะของกลไกการรักษา นอกจากนี้ การจ่ายยาในโรงพยาบาลก็เป็นการจ่ายตามความเห็นของแพทย์ เช่น ยาอยู่ในโรงพยาบาล 1 แกลลอน แต่แบ่งจ่ายให้คนไข้ 20 ซีซี ยาจึงเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบโรคศิลปะหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วจัดเป็นสินค้าตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งผมก็จะเอาข้อกังวลเหล่านี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ" ทพ.อาคม กล่าว
ทพ.อาคม กล่าวว่า คณะกรรมการประกอบโรคศิลปะ ประกอบด้วยตัวแทนจากสภาวิชาชีพด้านสุขภาพต่างๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ว่าจะดำเนินการประชุมเมื่อไร แต่คณะกรรมการฯ จะรับพิจารณาหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะอาจมองว่าไม่ใช่หน้าที่ก็ได้ นอกจากนี้ ก็ต้องอยู่กับความเห็นของคณะกรรมการฯ ด้วยว่า ยาในโรงพยาบาลจะจัดเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาหรือจัดเป็นสินค้า หากเป็นสินค้าก็จะเข้าสู่กฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะแสดงความโปร่งใสอย่างไร ในเรื่องของต้นทุน ค่าบริหารจัดการ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พาณิชย์มีการตั้งคณะอนุกรรมการมาพิจารณาอยู่
"เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ความเข้าใจคนทั่วไป คือ ยาในคลินิกในโรงพยาบาลต้องควบคุม ว่าเหตุใดทำไมถึงแพง สมมติจ่ายยาพาราเซตามอล 10 เม็ด ยาแก้อักเสบ 20 เม็ด คิด 300 บาท แต่ข้างนอกราคา 50 บาท ซึ่งหากมองว่าเป็นสินค้าก็ต้องติดป้ายราคายาในหรือไม่ ถ้าไม่ติดป้ายห้ามจ่ายคนไข้ เพราะเป็นสินค้าควบคุม แต่ที่ผ่านมายาในโรงพยาบาลก็ไม่เคยเห็นมีใครติดป้ายไว้ที่ยา ไว้ที่กล่อง ก็จ่ายตามปกติ แต่ต้องชี้แจงราคายา ซึ่งจะมีเป็นแฟ้มราคายาในห้องยาอยู่ ซึ่งก็มีเป็นพันๆ รายการ และสามารถค้นมาดูได้ เหล่านี้ก็ต้องมาวินิจฉัยกัน" ทพ.อาคม กล่าว.