'อนุทิน'ขู่หากเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายบริหารอยู่ลำบาก
การเมือง
นายอนุทิน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้พรรคมีความพร้อมเต็มที่เรามีจุดยืนชัดเจนคือไม่เล่นการเมือง ไม่ขัดแย้งหรือเป็นศัตรูกับใคร เพราะความขัดแย้งไม่ทำให้คนไทยรวยขึ้น แต่ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาส โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเสนอนโยบายข้าวระบบกำไรแบ่งปัน และผลักดันให้มีการตั้งกองทุนข้าว ซึ่งทำได้จริง เพราะเป็นหลักการที่ทำมา35 ปี กับอ้อยและน้ำตาลทราย โดยพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายปี2527 ด้วยการแบ่งกำไร ร้อยละ 70 ให้แก่ชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล ร้อยละ 30 ซึ่งเมื่อปรับใช้กับข้าว ยกตัวอย่าง เช่น ปี 2561 รัฐบาลประกาศราคาข้าวหอมมะลิขั้นต้นที่ 15,000 บาท/ตัน ระบบกำไรแบ่งปัน จะทำให้ชาวนาได้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงสี และผู้ส่งออกเป็นเงินประมาณ 1,000-1,500 บาท/ตันรวมชาวนาอาจได้เงินสูงสุด 16,500 บาท/ตัน ส่วนราคาข้าวขาวในปี 2561 อยู่ที่ 7,900 บาท/ตัน เมื่อบวกส่วนแบ่งกำไรจากโรงสีและผู้ส่งออก ชาวนาจะได้เงินเพิ่ม 800 บาท/ตัน รวม 8,700 บาท/ตัน เป็นต้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามมีคนวิจารณ์ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของนโยบายข้าวกำไรแบ่งปัน แต่พรรคยืนยันว่าได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด มั่นใจว่าทำแล้วไม่มีใครเสียเปรียบ หากใครมาร่วมรัฐบาลแล้วไม่เอาด้วยกับนโยบายของเรา แสดงว่าเขาไม่เอาความต้องการของพี่น้องประชาชน ดังนั้น เราจะถือว่าเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
"มีผู้หลักผู้ใหญ่มาทักว่า ไม่ควรไปเชื่อ จะทำไม่ได้ พรรคภูมิใจไทย พวกผม ผู้บริหารพรรค สะกดคำว่าทำไม่ได้ไม่เป็น ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีเรื่องใดที่ทำไม่สำเร็จ แต่เราถือว่าการวิจารณ์เป็นการสั่งสอนและตอกย้ำให้พวกเราขยัน ทำให้มีกำลังใจ เวลาใครบอกว่าทำไม่ได้ เรายิ่งต้องพยายามมากขึ้น"นายอนุทิน กล่าว.