ข่าวนายกฯจ่อทำฝนเทียม-ฉีดละอองน้ำลดฝุ่นละออง - kachon.com

นายกฯจ่อทำฝนเทียม-ฉีดละอองน้ำลดฝุ่นละออง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจำนวนมากในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า  ได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร(กทม.) ไปให้มีการฉีดน้ำและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสวมหน้ากาก และให้สำรวจว่าต้นต่อมาจากไหน ซึ่งทุกหน่วยงานมีการรณรงค์และเตรียมการไว้แล้ว วันนี้จะต้องมาบูรณาการร่วมกัน เพราะเป็นปัญหาที่เราต้องดูแลสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องของฝนหลวงก็ได้มีการเตรียมการแต่ก็ต้องใช้เวลา บางทีถ้าทำไปแล้วลมไม่เป็นในทิศทางที่กำหนด ฝนก็ไม่ตก ต้องดูปริมาณความชื้นในอากาศด้วย

"สิ่งที่เป็นต้นตอของปัญหามีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งโรงงานอุตสากรรม การจราจร การเผาไร่นาต่างๆ ทุกคนมีส่วนช่วยทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลด้วย รัฐบาลและทุกส่วนราชการก็จะทุ่มเทดูแลและแก้ไขปัญหา เบื้องต้นให้ฉีดน้ำในพื้นที่เสี่ยงแล้ว" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าในระยะยาวจะต้องมีการแก้ปัญหาออกกฎระเบียบอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วว่าใครมีส่วนทำให้เกิดปัญหาบ้าง ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้และทำงาน จะปล่อยให้รัฐบาลทำงานคนเดียวไม่ได้

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกเขตกวาดล้างถนนอย่างเข้มข้นทุกวัน จัดอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่น ตรวจวัดควันดำ ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง รวมทั้งประสานกับกรมฝนหลวง และการบินเกษตรตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อทำฝนเทียมในพื้นที่เสี่ยงในวันที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ  รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่าจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า อากาศลอยตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อย สภาพอากาศปิด มีเมฆเป็นส่วนมาก มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหลายพื้นที่ ลมสงบ ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่ กทม.และปริมณฑล คุณภาพอากาศโดยรวมยังคงอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง โดยพื้นที่ริมถนน โดยสถานีวัดคุณภาพอากาศแสดงผลค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) อยู่ 18 พื้นที่ ตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 60-81 มคก./ลบ.ม.สาเหตุจากสภาพอากาศและการจราจร พื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) โดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) อยู่ 16 พื้นที่ ตรวจดวัดได้ระหว่าง 49-79 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจพบค่า เกินมาตรฐานที่บริเวณ ริมถ.กาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน แขวงบางนา เขตบางนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ แขวงดินแดง เขตดินแดง ริมถ.พระราม 4 เขตปทุมวัน ริมถ.อินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ริมถ.ลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ริมถ.ดินแดง เขตดินแดง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ต.คลองหนึ่งอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีต.ทรงคนอง ต.ตลาด อ.พระประแดง ต.ปากน้ำ อ.เมือง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน ริมถนนคู่ขนาน พระราม 2 อ.เมืองจ.สมุทรสาคร  ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 60 - 127 มคก./ลบ.ม.เกินมาตรฐานที่บริเวณ ริม ถ.กาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง สมุทรปราการ

อย่างไรก็ตามคาดการณ์ ว่าคุณภาพอากาศในวันพรุ่งนี้จะอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และ จากโมเดลพยากรณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงของ วันที่ 14 ฝม.ค.นี้ อากาศจะลอยตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่สภาพอากาศค่อนข้างปิด คพ. ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยลดฝุ่นละอองอย่างเข้มงวด ด้วยการห้ามใช้รถยนต์ควันดำอย่างเด็ดขาด ห้ามการเผาในที่โล่งทุกประเภทอย่างเด็ดขาด รวมถึงขอความร่วมมือในการลดการใช้รถยนต์โดยสารส่วนบุคคลด้วย หากประชาชนพบเห็นรถยนต์ควันดำจากรถยนต์ สามารถแจ้งได้ที่ 1. รถเมล์หรือรถบรรทุกควันดำ โปรดแจ้งสายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584 2. รถเมล์ ขสมก. ควันดำ โปรดแจ้งสายด่วน ขสมก. 1348 3. สายด่วน ผู้บังคับการตำรวจจราจร 1197 และหากมีข้อสงสัยด้านการปฏิบัติตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ สามารถติดต่อได้ที่ 1. สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 2. สายด่วนกรมอนามัย 1675 และ3. สายด่วนกระทรวงสาธารณสุข 1669.