ข่าว'นิพิฏฐ์'จ่อร้องกกต.-ปปง.ปมปลัดจว.พัทลุงสั่งเก็บบัตรปชช. - kachon.com

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  และว่าที่ผู้สมัครส.ส.พัทลุง ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เจาะลึกทั่วไทย" ถึงกรณีที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีปลัดจังหวัดคนหนึ่งเรียกกำนันให้ถ่ายรูปบัตรประชาชนของชาวบ้านแล้วให้เจ้าของบัตร คนละ 500 บาท เป็นการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง  ว่า  หลังจากตนโพสต์เรื่องนี้ไปแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อมา ปรากฏว่านายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โทรศัพท์มาหาตน พร้อมถามว่าปลัดจังหวัดคนไหนที่ทำอย่างนี้ ซึ่งตนให้ข้อมูลแก่นายฉัตรชัย ว่าปลัดจังหวัดที่ทำอย่างนั้นคือใคร และเป็นคนที่ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นพรรคขนาดกลาง ไม่เก่ามาก มีเงินมาก และเป็นพรรคที่เก็บบัตรประชาชนในหลายจังหวัด โดยปลัดจังหวัดคนนี้สั่งให้กำนันและผู้ใหญ่ไปบัตรประชาชนของชาวบ้านในเขตเลือกตั้งเดียวกับตน มาแล้วจ่ายเงินหัวละ 500 บาท ซึ่งเขาตั้งเป้าว่าจะเก็บบัตรระชาชนให้ได้ 40,000 ใบ ตอนนี้เขาเก็บมาได้แล้วประมาณ 28,000 ใบ แต่เขายังไม่ได้จ่ายเงินให้เจ้าของบัตร แค่เตรียมเงินรอไว้  อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าได้รวบรวมหลักฐานเรื่องนี้ไว้เป็นระบบครบถ้วนแล้ว ตนมั่นใจในข้อมูลที่มี 120 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาอยากฟ้องร้อง ก็ให้ทำมาเลย ตนจะได้นำหลักฐานมาเปิดเผย

นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า  ตามกฎหมายใหม่ ถือว่าการซื้อเสียงในการเลือกตั้งเป็นการกระทำผิดกฎหมายปราบปรามการฟอกเงินด้วย และถ้าพบว่ามีกรรมการบริหารพรรคนั้นเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเข้าข่ายการยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดจะถูกยึดทรัพย์ด้วย  ตอนนี้ตนกำลังจัดทำข้อมูลทั้งหมดเป็นรูปเล่มแล้วยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงบอกตนว่าได้เชิญผู้อำนวยการกกต.จังหวัดมาพูดคุยเรื่องนี้ ซึ่งผอ.กกต.จังหวัดบอกว่าเขายังทำอะไรไม่ได้ เรียกใครมาสอบสวนไม่ได้ ทำได้แค่รวบรวมข้อมูลหลักฐาน  เพราะตอนนี้ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง  แบบนี้ถือว่ากกต.ทำงานแย่มาก นอกจากนี้ ตนได้เสนอให้ผวจ.พัทลุงมีนโยบายสั่งการกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้ทำตัวเป็นกลาง ห้ามไปเก็บบัตรประชาชนหรือไปช่วยเหลือผู้สมัครส.ส.ไม่ว่าจะของพรรคใด มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด  แต่ผวจ.พัทลุงบอกว่าต้องให้กกต.จังหวัดร่างหนังสือคำสั่งมาให้เขาลงนาม ซึ่งตนคิดว่าคนของกระทรวงมหาดไทยคงไม่จัดการกันเองอยู่แล้ว  ทั้งที่จริง ตนคิดว่าผวจ.พัทลุงสามารถใช้กฎหมายทางปกครองได้ สามารถเรียกกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่เป็นคนเก็บบัตรประชาชน มาสอบถามได้ว่าทำอย่างนั้นทำไม อีกทั้งการกระทำใดๆที่แม้เป็นการเตรียมการซื้อเสียง แต่ถือว่ามีความผิดแล้ว โดยเป็นการสัญญาว่าจะให้ เพราะกฎหมายไม่ได้บอกว่าจะมีความผิดต่อเมื่อพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมาแล้วเท่านั้น มันจึงถือว่าผิดหมดไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีพระราชกฤษฎีกานี้ออกมา

“นักการเมืองรู้กันดีว่าพรรคที่ทำแบบนี้คือพรรคไหน ผมได้เคยเจอเสี่ยของพรรคนี้ในงานแต่งงานที่กรุงเทพฯ ผมถามเขาว่าตอนนี้ยุคปฏิรูปแล้ว เสี่ยไปเก็บบัตรประชาชนทำไม เขาบอกผมว่าไม่ได้ทำถึงขนาดนั้น ให้เขาทำไปก่อน ไม่มีใครกล้าจ่ายขนาดนั้นหรอก ผมไม่ได้บอกเขาว่าจะแจ้งเอาผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วย  แต่ผมรู้ว่าพรรคที่สั่งเก็บบัตรนั้น เขาสั่งกันในไลน์กลุ่มคนของพรรคนั้น พร้อมบอกด้วยต้องระวัง เพราะนิพิฏฐ์ตามเรื่องนี้อยู่ ผมมีข้อมูลตรงนี้หมดแล้ว เพราะมีคนของผมอยู่ในไลน์กลุ่มนั้น พรรคนี้ตั้งเป้าหลักคือการเก็บคะแนนให้ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค มีการตั้งเกณฑ์กับคนของเขาว่าถ้าใครทำได้กี่หมื่นคะแนน จะได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี เขาบอกว่าเขาเป็นพรรครัฐบาลตลอด”นายนิพิฏฐ์ กล่าว.