ข่าวตั้ง4อนุกก.ฯประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีฯ - kachon.com

ตั้ง4อนุกก.ฯประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อรับทราบหมายกำหนดการพระราชพิธีในวันที่ 4-5 พ.ค. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  จำนวน7 คณะก่อนหน้านี้ โดยในวันที่ 18 ม.ค.มีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายโครงการกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 1/2562 ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรมเป็นประธาน โดยไม่มีการแถลงผลการประชุมแต่อย่างใด เพราะจะมีการเปิดเผยหลังนี้

จากนั้นในช่วงบ่ายมีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 1/2562  ที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผย ภายหลังการประชุมฯว่า วันนี้เป็นการหารือและรับแนวทางการทำงานเบื้องต้น จากรองนายกฯ โดยที่ประชุมได้พิจารณาการจัดตั้งคณะอนุกรรมการในฝ่ายประชาสัมพันธ์ 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการศูนย์ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และทางวิทยุกระจายเสียง,คณะอนุกรรมการศูนย์สื่อมวลชน ,คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ด้านต่างประเทศ และคณะอนุกรรมการฝ่ายสารัตถะ ที่จะรับผิดชอบในการผลิตสื่อด้วย ซึ่งได้ทาบทามนายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯและมี นายจรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นฝ่ายเลขา ทั้งนี้จะมีคณะกรรมการทำงานอื่นๆ สำหรับเตรียมการด้านประชาสัมพันธ์ทั้งหมด โดยจะนำข้อมูลเผยแพร่ผ่านทางเว็ปไซต์พระลาน(www.phrali.com)

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทั้งหมดจะมีความชัดเจน หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 26 ม.ค.นี้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป รวมทั้งเรื่องของตราสัญลักษณ์ ในการจัดพระราชพิธีฯ ด้วย.