ข่าวแนะ4กิจกรรมคนแก่ขยับร่างกาย กระตุ้นระบบหัวใจ-ทรงตัว - kachon.com

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นพ.สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณุสข เปิดเผยว่า การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของสังคมไทยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุร้อยละ 17.9 มากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยจะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดประมาณปี พ.ศ. 2564 ซึ่งจะถือว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ สาเหตุเกิดจากพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม  ตลอดจน ความรุดหน้าทางการแพทย์และการสาธารณสุข ในขณะที่อัตราการเกิดต่ำลง ส่งผลให้สังคมไทยมีประชากรวัยเด็กลดลง ประชากรวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้น การที่จะมีอายุยืนยาวและคุณภาพชีวิตที่ดี จำเป็นต้องส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและพึ่งพาตนเองได้ การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น ออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ด้าน นพ.สกานต์ บุนนาค รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้สูงอายุควรเพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน และลดพฤติกรรม เช่น นั่งๆ นอนๆ ดูทีวี หรือเล่นโซเชียลมีเดีย เป็นเวลานานๆ เป็นต้น โดยรูปแบบกิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุสามารถทำได้ ดังนี้ 1. กิจวัตรประจำวันที่ทำด้วยตนเองที่บ้านหรือในยามว่าง ได้แก่ งานบ้าน กวาดถูบ้าน รดน้ำต้นไม้ กวาดใบไม้  2. กิจกรรมการเดินทาง อาทิ การเดินไปจ่ายตลาด การเดินไปทำงาน ปั่นจักรยาน  3. กิจกรรมสันทนาการหรืองานอดิเรก เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทางร่างกาย ส่งเสริมสุขภาพจิตใจและสมอง เช่น การร้องเพลง เต้นรำ วาดภาพ ถ่ายรูป ปลูกต้นไม้  4. การออกกำลังกายง่ายๆ เช่น ลีลาศ รำไทเก๊ก รำไม้พลอง เป็นต้น

นพ.สกานต์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวที่อาจได้รับอันตรายจากการออกกำลังกาย เช่นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด โรคข้อเข่าเสื่อม ควรได้รับคำแนะนำหรืออยู่ในการดูแลของแพทย์หรือ นักกายภาพบำบัด การออกกำลังกายควรเริ่มด้วยการยืดเหยียด อบอุ่นร่างกายเพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมและปรับตัวได้ทัน การออกกำลังต้องไม่หนักเกินไป โดยอาจสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าออกกำลังกายหนักเกินไป เช่น เวียนศีรษะ ใจสั่น จุกเสียดแน่นหน้าอก และก่อนหยุดออกกำลังควรมีการอบอุ่นร่างกายอีกครั้ง ทั้งนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำจะส่งผลดีต่อร่างกายหลายระบบ เช่น หัวใจหลอดเลือด ฝึกการทรงตัวเพิ่มความแข็งของกล้ามเนื้อทำให้ลดความเสี่ยงการหกล้ม ลดการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงลดโอกาสกระดูกหัก กระตุ้นการทำงานของลำไส้ลดอาการท้องอืดท้องผูก และยังทำให้สดชื่นลดการเกิดภาวะซึมเศร้าอีกด้วย.