ข่าว'บิ๊กตู่'แย้มพรรคการเมืองในฝัน ต้องเสียสละ-สานต่อนโยบาย - kachon.com

'บิ๊กตู่'แย้มพรรคการเมืองในฝัน ต้องเสียสละ-สานต่อนโยบาย
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ถึงกรณีหลังมีพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ รัฐบาลจะยังเดินสายประชุมครม.สัญจรอีกหรือไม่ เพราะมีหลายพรรคกังวลความได้เปรียบและเสียเปรียบทางการเมือง โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง จะออกมาในเร็ววันนี้ ขณะเดียวกันต้องเข้าใจด้วยว่ารัฐบาลก็ต้องทำงาน อีกทั้งเป็นรัฐบาลที่เข้ามาด้วยวิธีพิเศษ ดังนั้นรัฐบาลต้องแก้ปัญหาที่เป็นวาระชาติ ซึ่งหลายเรื่องได้ทำสำเร็จไปแล้ว และยังต้องแก้ไขปัญหาในเรื่องกฎหมายเพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ในอดีตที่ผ่านมา จึงขออย่ามองเพียงเรื่องได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น แต่ทำตามนโยบายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้  หากมัวแต่รอรัฐบาลหน้า ซึ่งในอนาคตหากรัฐบาลหน้าเห็นว่าดีกว่าก็ทำใหม่ได้ แต่ไม่ใช่ล้มล้างกฎหมาย และพ.ร.บ.การเงินการคลังทั้งหมด โดยเฉพาะวันนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ออกมาตรการป้องกันการทุจริตกรณีการค้าระหว่างประเทศแบบรัฐต่อรัฐจากโครงการรับ จำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ​ (จีทูจี) มาแล้ว โดยรัฐบาลนี้ได้ทำตามมาตลอด จึงถือเป็นความแตกต่าง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการวางบทบาทและอนาคตทางการเมืองของตัวเองหลังเลือกตั้งว่า ตนได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ย้ำว่ายังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าควรจะอยู่ต่อเพื่อทำงานหรือไม่ และจะอยู่ต่อได้ด้วยอะไร จึงกำลังดูว่าถ้าต้องอยู่จะทำอย่างไร ซึ่งขั้นแรกคือพรรคการเมืองต้องมาเชิญตนก่อน จากนั้นตนก็จะคิดว่าจะตอบรับใครหรือไม่ ถ้าคิดว่าต้องอยู่เพื่อทำงานต่อตนก็คงต้องสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นพรรคที่ทำงานด้วยความตั้งใจเสียสละอย่างแท้จริง และต้องทำให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในวันหน้า ไม่ใช่ล้มล้างทั้งหมดที่ทำมาแล้ว เพราะจะเสียเวลาเปล่า อย่างไรก็ตามย้ำว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ขณะเดียวกันวันนี้เมื่อรัฐธรามนูญฉบับใหม่ออกมาและผ่านการลงประชามติ แล้ว ดังนั้นต้องเคารพเสียงของประชาชน จึงขอให้ทุกคนยอมรับ สิ่งสำคัญให้สนใจกฎหมายลูกด้วย ไม่ใช่สู้กันแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ขอให้ระมัดระวังในเรื่องการหาเสียงและการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องระมัดระวังมากที่สุด ไม่ใช่โจมตีรัฐบาลนี้แต่รัฐบาลหน้าก็จะทำ สิ่งทุกอย่างต้องยึดตามกฎหมาย จึงขออย่าพูดจาไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งป.ป.ช. ก็ได้ออกกฎระเบียบออกมามากมาย วันหน้าหากถูกฟ้องขึ้นมาก็ยึดตามกฎหมายที่ออกใหม่ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามในการแก้ปัญหาวันนี้ต้องอย่าลืมว่ารัฐบาลนี้ได้ทำให้มีความสงบเรียบร้อย รวมถึงการแก้ปัญหาอื่นๆ ซึ่งแม้จะไม่ดีร้อยปอร์เซ็นต์แต่ก็ดีกว่าเดิมมาก การค้าการลงทุนก็เป็นปกติ มีการลงทุนกว่า 9 แสนล้านในพื้นที่อีอีซี หากมีคนประกาศจะยกเลิกอีอีซี ถามว่านักลงทุนก็จะยกเลิกทั้งหมดและกลับมาสู่ที่เก่าแล้วใครจะรับผิดชอบ จึงขอเตือนบรรดาพรรคการเมืองด้วย

"การก่อร่างสร้างบ้านของเรากำลังอยู่ในขั้นตอกเสาเข็มต่อเติมข้างล่างขึ้นมา แล้วท่านมาทำลายรากฐานทำลายกฎหมายทุกตัว มันจะไปได้ไหม อย่ามาช่วยกันทำลายในสิ่งต่างๆ เหล่านี้เพียงแค่จะเอาชนะกันทางการเมืองอย่างเดียว ผมขอร้องตรงนี้ เพราะจะเสียประโยชน์ต่อคนทุกฝ่ายและประชาชนทุกกลุ่มแล้วจะมาแก้กันอย่างไร มาแก้ด้วยนโยบายที่พูดกันมามันแก้ได้ไหม ถ้าแก้ได้จริงคงแก้ได้มานานแล้ว เพราะทุกคนที่ออกมาพูดก็เคยอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินมาทั้งสิ้น หลายอย่างที่พูดออกมาก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลได้ทำไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็พูดซ้ำที่รัฐบาลทำ อยากให้ไปดูนโยบายบางพรรคที่ออกมาซ้ำกับที่พูดไปแล้วและไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรมาแล้ว  แม้กระทั่งที่ออกไปต่างประเทศ พูดอยู่นั่น รถไฟฟ้าหรืออะไรก็ตาม ไปดูสิว่าเขาเดินหน้ามายังไง และทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่ไม่ดูกันเลย ถ้ามัวแต่เอาข่าวความขัดแย้งมากๆมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอีกเลยฝากทุกคนไว้ด้วย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากการติดตามทางการข่าวของฝ่ายความมั่นคงพบว่าคนที่มาร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งมีประมาณ 200 - 300 คน ซึ่งได้มีการติดตามพฤติกรรมและได้ถ่ายภาพไว้ ส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มเดิมๆ จึงขออย่าให้ความสนใจมากนัก เพราะจะเกิดความขัดแย้งได้ ซึ่งที่ไม่ชอบก็มี ดังนั้นเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็อย่ามาโทษฝ่ายรัฐ แต่รัฐบาลต้องรักษาความสงบให้ได้มากที่สุด.