ข่าวพรรคการเมืองคึก!ขานรับศึกเลือกตั้ง  - kachon.com

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งประกาศใช้ พรรคเพื่อไทยจะรอการประกาศวันเลือกตั้งและวันรับสมัครจากกกต. โดยในวันที่ 28 มี.ค.เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุมว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งวันนั้นจะเห็นหน้าตาของว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั้งหมด ส่วนกรณีที่ีกกต.ระบุว่า มีพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวที่ทำขั้นตอนต่างๆ พร้อมสำหรับการเลือกตั้งนั้น  เข้าใจว่าอาจเป็นการคลาดเคลื่อนของข้อมูล เพราะพรรคเพื่อไทยทำขั้นตอนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งการตั้งสาขาพรรคในทุกภาค และตั้งผู้แทนจังหวัดครบถ้วนแล้ว อาจมีเพียงบางจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้น ยืนยันว่าเราพร้อมหมดแล้ว อยากให้กกต.ระมัดระวังในการประกาศอะไรออกมาด้วย เพราะถ้ามีการคลาดเคลื่อนจะเกิดความเสียหายได้ 

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไทยรักษาชาติมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งมานานแล้ว วันนี้เมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมา ทุกอย่างก็ถือว่าชัดเจนยิ่งขึ้น ตอนนี้เราก็รอว่ากกต.จะประกาศวันเลือกตั้งและวันรับสมัครเลือกตั้งเมื่อใด ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคไทยรักษาชาติกำลังพิจารณาตัวผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศอยู่ คาดว่าภายในไม่กี่วันนี้จะสามารถสรุปได้ ขณะที่รายชื่อนายกฯ ที่พรรคจะเสนอนั้น คงจะประกาศช่วงใกล้วันรับสมัครเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว  เราอยากเห็นท่าทีที่ชัดเจนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.ว่า จะประกาศตัวลงสนามเลือกตั้งเมื่อไหร่ สังคมเข้าใจว่าวันหนึ่งท่านจะเข้าร่วมพรรคการเมืองที่รัฐมนตรีในรัฐบาลไปเป็นกรรมการบริหารพรรค วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องโชว์ความเป็นลูกผู้ชายในการแสดงท่าทีที่ชัดเจน ที่สำคัญ ท่านต้องทบทวนบทบาทของตัวเองว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีทั้ง 4 คนคิดเองได้ ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าเมื่อกรรมการจะผันตัวเองมาเป็นผู้เล่นต้องวางตัวอย่างไร กกต.จะได้จัดการเลือกที่เป็นจุดเริ่มต้นถนนสู่ประชาธิปไตยซึ่งเป็นความหวังของประชาชนเพื่อให้ได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งเข้ามาฟื้นฟูความเชื่อมั่นและแก้ปัญหาปากท้องได้อย่างไร้ข้อครหา ปราศจากการครอบงำ  

นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะทำงานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป พ.ศ.2562  ว่า เป็นสิ่งที่ต้องจับตาต่อไปว่า วันเลือกตั้งจะถูกกำหนดในวันใด ซึ่งเป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องพิจารณาในวันที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามจากนี้ไปถือว่าพรรคการเมืองสามารถลงพื้นที่เพื่อหาเสียงเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่

นายวราวุธ กล่าวต่อถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์  ระบุเป็นคำเตือนไปยังพรรคการเมืองให้ระวังการหาเสียงเลือกตั้งและนำเสนอโยบาย เพราะมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คอยจับตา ว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองพึงระวังในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่านโยบายและวิธีการหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะกรอบการจัดทำนโยบายที่จะอิงกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูป ขณะเดียวกันตนยังจับตาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร หลังจากที่ระบุถึงเงื่อนไขของการยอมรับให้พรรคการเมืองเสนอชื่อในบัญชีบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้ง

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)​ กล่าวถึง ความพร้อมต่อการเลือกตั้งปี2562 หลังมีประกาศพ.ร.ฎ. ว่า อนาคตใหม่พร้อมเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งปี 2562 มานานแล้ว พร้อมส่งผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเกือบทั้ง 150 คน ตอนนี้รอเพียงการประกาศกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนจากทางกกต.ภายใน 5 วัน เพื่อที่อนาคตใหม่เข้าสู่แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งยืนยันว่าควรกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถ้าช้าพรรคการเมืองช้าพรรคการเมืองได้เปรียบจริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่อยากรับไว้ เพราะต้องการเห็นบ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้า หากกกต.กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มี.ค. ตามกระแสข่าว ก็จะทำให้มีเวลาหาเสียง 59 วัน อนาคตใหม่ก็พร้อม มีเวลาเท่าไรใช้เท่านั้นอย่างเต็มที่ โดยวันที่ 26 ม.ค.นี้ จะมีงานเปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม. 30 เขต ที่หอศิลป์ กทม. และแสดงความพร้อมของพรรคอนาคตใหม่ในการเข้าสู่การเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า เมื่อมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง 4 รัฐมนตรีของรัฐบาลคสช. ที่เข้าร่วมเป็นแกนนำพรรคพปชร.ควรแสดงสปิริตลาออกใช่หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า คงตอบแทนไม่ได้ ต้องฝากผู้สื่อข่าวไปถาม ให้ 4 รัฐมนตรีเป็นผู้ตอบเอง ตนเห็นว่า ทั้ง 4 รัฐมนตรี ควรพิจารณาในเรื่องนี้ ด้วยการคำนึงถึงจรรยาบรรณและความสง่างาม ประกอบกับความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น จากผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกี่ยวพันกับการใช้กลไกรัฐต่อการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นผลประโยชน์ของส่วนรวม เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพปชร.จะเสนอชื่อในบัญชีนายกฯ ก็ควรพูดให้ชัดเจน เพื่อให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจว่า จะเลือกพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช. ที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกหนึ่งสมัย หรือจะเลือกพรรคการเมืองที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของคสช.อย่างพรรคอนาคตใหม่

นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งเรียบร้อยแล้วก็เป็นไปตามที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเรียกร้อง และทางกลุ่มเองก็จะทำอย่างที่ประกาศเอาไว้ว่าจะยุติการชุมนุมรณรงค์ไม่เลื่อนเลือกตั้งในวันที่ 26 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งทราบ จากนี้จะหารือกันและออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อไป

ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่มีการประกาศพ.ร.ฎเลือกตั้งออกมาแล้ว เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบวิธีการชุมนุม และจากนี้ก็จะเดินหน้าเรื่องการรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมเหมือนที่ทำก่อนที่จะเลื่อนเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา โดยเป็นการรณรงค์กันในเครือข่ายเฟ ไม่ใช่การชุมรุม แต่หากมีอะไรที่เป็นการทุจริตการเลือกตั้งก็จะยื่นหนังสือถึงกกต.ต่อไป.