ข่าวคันอย่าเกา!หมอเตือนคนฉีดฟิลเล่อร์เจอฝุ่นจิ๋วเสี่ยงหน้าเบี้ยว - kachon.com

คันอย่าเกา!หมอเตือนคนฉีดฟิลเล่อร์เจอฝุ่นจิ๋วเสี่ยงหน้าเบี้ยว
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ว่า เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงมาก ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดมาอย่างน้อยประมาณ 5 ปี แต่ปีนี้เทคโนโลยีทำให้พบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมากขึ้น ขณะนี้ตั้งคลินิกมลพิษที่รพ.นพรัตน์ ซึ่งใกล้กับพื้นที่อุตสาหกรรมเพื่อเป็นคลินิกนำร่องก่อน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทุกคนต้องร่วมกันแก้ เช่น ลดการใช้น้ำมันดีเซลล์ อย่าติดเครื่องยนต์แช่ไว้ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขได้เน้นให้ความรู้เรื่งการป้องกันส่วนบุคลคล ส่วนเรื่องการปิดโรงเรียนนั้นกระทรวงไม่มีอำนาจไปสั่งปิด แต่ละโรงเรียนสามารถประเมินตัวเองได้ เช่น อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสีแดงติดต่อกันหลายวันก็ปิดเรียนชั่วคราวได้ อย่างโรงเรียนรุ่งอรุณ เขตบางขุนเทียนที่มีการปิดเรียนนั้นคุยกันแล้วก็เห็นว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสีแดงก็ปิดได้เพราะเป็นโรงเรียนอนุบาลไม่มีปัญหาเรื่องของการสอบวัดผลอะไรต่างๆ อยู่แล้ว แต่ก็ย้ำว่าการเจ็บป่วยเฉียบพลันจากพีเอ็ม 2.5 นั้นมีน้อยมาก ที่ห่วงคือผลกระทบกับเด็กในระยะยาวมากกว่า

ด้านพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้กรมอนามัย ได้ออกมาตรการ 8 ข้อ สำหรับโรงเรียนอนุบาล 1 .ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2 .เลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคาร ในช่วงที่ฝุ่นละอองอยู่ในระดับสีเขียว ตั้งแต่ 26-37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 3 .ให้เด็กดื่มน้ำให้เพียงพอ 6 แก้วต่อวัน 4. ดูแลเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่หน้าอกให้รีบพบแพทย์ 5. ขอความร่วมมมือผู้ปกครอง จอดรถนอกโรงเรียน ถ้าจำเป็ต้องเข้ามาให้ดับเครือ่งยนต์ ขณะจอด 6. ปลูกต้นไม้ดักฝุ่น 7. งดกิจกรรมก่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น เผาใบไม้ ขยะ 8. ขอความร่วมมือร้านอาหารในโรงเรียน งดการทำอาการปิ้งย่าง โดยเตาไร้ควัน ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 ซึ่งเป็นอำนาจท้องถิ่น งดทำกิจกรรมเกิดฝุ่น

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูหนาว ก็จะมีคนป่วยโรคทางเดินหายใจ หอบหืดเพิ่มขึ้นด้วย แต่เป็นทุกปี ดังนั้นเป็นอีกเหตุการณ์ที่ซ้อนทับกันกับสถานการณ์ฝุ่นละออง ตอนนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลให้ชัดเจน อย่างรอบคอบ

พญ.มิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ทำให้เกิดโรคลมพิษ และโรคผื่นภูมิแพ้ ซึ่งจากการเก็บข้อมูล 1- 16 วันของเดือนม.ค.ปี 2561 และ 2562 พบว่า ทั้งสองกลุ่มโรคมีสถานการณ์ไม่แตกต่างกันมาก โดยในปี 2561 พบผู้ป่วย 174 ราย และปี 2562 พบ 152 ราย เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน แต่มีอีกกลุ่มที่อยากเตือนเป็นพิเศษ คนที่ฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ จะมีปฏิกิริยาไวต่อฝุ่นละอองทำให้เกิดอาการบวมแดง และคัน โดยเฉพาะกลุ่มฉีดฟิลเลอร์ขอเตือนว่าหากคันพยายามอย่าเกาเพราะจะทำให้บริเวณที่ฉีดเสียทรงได้ คนที่ฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงฝุ่นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ วิธีแก้คือเลี่ยงไปพื้นที่ฝุ่นสูง สวมหน้ากากอนามัย ถึงบ้านให้รับอาบน้ำ ล้างหน้าโดยใช้สบูปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อก็ได้.