ข่าว4รมต.เตรียมนัดคุยวันลาออก ยัน'สมคิด'ไม่เกี่ยว - kachon.com

4รมต.เตรียมนัดคุยวันลาออก ยัน'สมคิด'ไม่เกี่ยว
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในเวลา 12.30 น.ภายหลังพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฏ.)ให้มีการเลือกตั้งส.ส.ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายอุตตม สาวนายน  รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคพปชร.เข้าพบ ที่ห้องทำงานชั้น 1 ตึกบัญชาการ โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสนธิรัตน์  ได้ให้ทีมงานประสานนำรถยนต์ส่วนตัวมารับด้านข้างตึกบัญชาการ 1   โดยเมื่อรถมาจอดรอนายสนธิรัตน์ รีบเดินออกจากห้องทำงานนายสมคิด ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  โดยกล่าวเพียงสั้นๆกับสื่อมวลชนว่า “ไม่มีอะไร มาเรื่องงาน ขออนุญาตไม่พูด”  ก่อนจะรีบเดินขึ้นรถออกจากทำเนียบฯทันที

ขณะที่นายอุตตม ได้เดินออกมาพร้อมกับนายสมคิด โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความชัดเจนเรื่องการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี นายอุตตม กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ยังเดี๋ยวก็รู้ เร็วๆนี้”  ก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวอีกด้านหนึ่งของตึกบัญชาการ 1 ด้วยเช่นกัน  จากนั้นเวลา 13.15 น. นายสมคิด เดินลงจากตึกบัญชาการ 1 ไปยังตึกภักดีบดินทร์ เพื่อเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวถามนายสมคิดถึงกรณีที่เรียกนายอุตตมและนายสนธิรัตน์เข้าพบ  นายสมคิด กล่าวทีเล่นทีจังว่า “เขาคงมาเยี่ยมไข้” เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่ 4 รัฐมนตรีจะลาออกด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ไม่มีอะไรเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทั้งนี้ทีมงานของนายอุตตมและสนธิรัตน์ แจ้งว่าสาเหตุที่ไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง เนื่องจากตอนนี้มีพ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว การจะให้สัมภาษณ์อะไรเกี่ยวกับเรื่องการเมืองต้องระมัดระวังมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังอยู่ในเวลาราชการหากผิดพลาดจะมีผลทางกฎหมายทันที



ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ว่า  หลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมาแล้ว หมายความว่ากระบวนการการเลือกตั้งตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 5 วัน รัฐบาลดีใจที่ทุกอย่างเดินไปตามครรลองที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้  ทั้งนี้ ส่วนตนในนามพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันเสมอว่าเมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งออกมาแล้ว 4 รัฐมนตรี ที่เป็นผู้บริหารพรรคจะได้หารือร่วมกันเพื่อหาวันที่เหมาะสมในการร่วมกันตัดสินใจตามที่ได้พูดไปหลายหนแล้ว ย้ำว่า 4 รัฐมนตรีจะไปพร้อมกัน อีกทั้งเมื่อ 2 วันที่แล้ว  นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันไปแล้วว่ากระบวนการต่างๆ จะเป็นไปอย่างที่เคยพูดว่าจะให้ 4 รัฐมนตรีคุยกันก่อนที่จะประกาศว่าจะลาออกพร้อมกันวันไหน และเมื่อเราพูดคุยกันแล้วจะต้องหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อรายงานให้รู้ถึงการตัดสินใจของพวกเรา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ารัฐมนตรี 4 คน ลาออกงานในส่วนที่รับผิดชอบจะทำอย่างไร นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องถามนายกฯ เพราะเป็นอำนาจตัดสินใจของนายกฯ โดยกรณีของกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ ต่างมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง แม้แต่สำนักนายกรัฐมนตรีมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะที่เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีก 1 คน แต่มีเพียงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้นที่ไม่มีรมช. ซึ่งนายกฯจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าการที่ 4 รัฐมนตรียังไม่ระบุวันที่จะลาออก เป็นเพราะต้องรอให้นายสมคิด ช่วยตัดสินใจให้ใช่หรือไม่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย แต่เราทั้ง 4 คน ต้องไปดูความพร้อมของแต่ละคน โดยเฉพาะงานที่เรารับปากกับประชาชนไว้ ดังนั้น ขอให้รอหารือกับนายอุตตมก่อน เพราะทุกคนเดินตามหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว  อย่างไรก็ตาม การที่เราสวมหมวก 2 ใบนั้นไม่ง่าย เพราะคู่แข่งวิ่งมาราธอน 24 ชั่วโมง ในขณะที่เราต้องมาวิ่งตอนกลางคืนถึง 08.30 น. ในเวลาราชการเพราะไม่สามารถทำอะไรได้ จึงคิดว่าเกิดความไม่สะดวกมาก เพราะเราอยากต่อสู้เต็มที่ทางการเมือง หากลงสนามการเมืองได้อย่างเต็มที่เราก็อยากทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นโอกาสที่ดีในการหาเสียงได้เต็มเวลาโดยไม่เสียเปรียบพรรคอื่นแล้วใช่หรือไม่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ทั้งนั้น เพราะมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในส่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการเพื่อประชานชน ซึ่งสำเร็จไปมากแล้ว ตนก็สบายใจ แต่ก็ต้องดำเนินการต่อไป แต่ก็ยังเหลืออีกไม่กี่งาน ที่ต้องรออีกนิดหน่อย แต่โดยรวมตนก็สบายใจแล้ว ซึ่งต้องขอพูดคุยกันทั้ง 4 คนอีกครั้ง ซึ่งคิดว่า การออกพ.ร.ฎ.ในวันนี้ (23 ม.ค.) เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

ต่อข้อถามว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐจึงไม่ทาบทามพล.อ.ประยุทธ์ เสียที ปล่อยให้รอนาน นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอคุยกันภายในคณะกรรมการบริหารพรรค  ต้องรอคณะกรรมการลงมติร่วมกัน และเดินหน้าต่อไป แต่อย่างน้อยเมื่อพ.ร.ฎ.ฯ ออกมาก็มีความชัดเจนหมดทุกอย่าง วันนี้ก็เหมือนการยิงปืน ส่งสัญญาณให้ออกจากจุดเริ่มต้นซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ยิงสักที ทำให้ละล้าละลัง เมื่อได้ยิงเสียงปืนแล้วทุกคนวิ่ง ยังไงก็ต้องครบรอบ

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งในพรรคที่กกต.เตือนว่ายังไม่ปฏิบัติตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้ครบถ้วน ซึ่งอาจจะไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องปรึกษานายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค ที่เป็นผู้ดูแลด้านกฎหมายต่างๆของพรรค ซึ่งตนเชื่อว่านายวิเชียร จะดูแลได้เรียบร้อย ต้องยอมรับว่าพปชร.เป็นพรรคที่กลัวกกต.มากที่สุด เราจะดูกฎหมายทุกข้อ และจะดำเนินการตามทุกขึ้นตอน ส่วนตนไม่ว่าจะทำอะไรก็จะสอบถามนายวิเชียรสมอ เชื่อว่านายวิเชียรก็ทราบอยู่แล้ว ว่ามีอะไรเป็นเงื่อนไขบ้างและคิดว่าไม่น่าจะพลาด และมั่นใจว่าพปชร.พร้อม

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคพปชร.จะได้ส.ส. 150 ที่นั่ง นายกอบศักดิ์กล่าวว่า เรายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ก็หวังว่าจะมีที่นั่งในสภา ซึ่งเราพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำให้มีส.ส.ในสัดส่วนที่เหมาะสม ที่คนในพรรคบอกว่าจะทำให้ได้ 150 ที่นั่งนั้น เราจะทำให้ได้มากกว่า 150 ที่นั่ง ซึ่งก็จะเป็นพรรคขนาดกลาง.