ข่าว'ชัชชาติ'เมิน4กุมารลาออกหรือไม่ ชี้เป็นวิจารณญาณแต่ละคน  - kachon.com

'ชัชชาติ'เมิน4กุมารลาออกหรือไม่ ชี้เป็นวิจารณญาณแต่ละคน 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม และแกนนำพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้พรรคจะมีความชัดเจนว่าตนเองจะต้องทำหน้าที่อะไร เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก จึงต้องมาปรึกษาหารือกับผู้บริหารของพรรคว่าตนเองจะต้องวางตัวอย่างไร และจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งนับตั้งแต่ประกาศพ.ร.ฎ. ตนเองก็ได้หยุดโพสต์ข้อความทุกอย่างในเฟซบุ๊กที่อาจเข้าข่ายว่าว่าจะขัดต่อกฎหมาย และพรรคก็ได้ให้สมาชิกทุกคนปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันด้วย ส่วนงานชัดๆ ของตนคืองานด้านของโครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ ส่วนเสียงเชียร์ที่ให้เป็นนายกฯยังถือเป็นเรื่องที่ไกลตัว 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า  หลังจากกกต.กำหนดวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. เรื่องของเวลาการหาเสียง ยอมรับว่าคงมีเวลาอย่างจำกัด พรรคคงจะแบ่งทรัพยากร บุคลากรเป็นทีมไปยังพื้นที่ต่างๆ บุคคลากรของพรรคต่างมีความรู้ความสามารถทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การที่ตนเดินทางมายังพรรคในวันนี้ เพื่อถามความชัดเจน ทางพรรคจะมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ส่วนไหนบ้าง อย่างไรก็ดีเมื่อมีการประกาศวันเลือกตั้งออกมาแล้ว เชื่อว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเริ่มกลับคืนมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตอบรับ ส่งสัญญาณไปในทิศทางบวก นักลงทุนจะกลับมาลงทุน สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยแม้จะชูเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นหลัก แต่เราไม่ได้เน้นในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว จะดูไปถึงเรื่องอื่นด้วย เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น เป็นต้น

เมื่อถามว่าสิ่งที่เคยพูดกับพี่น้องภาคอีสาน เรียกร้องให้เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้มาก เพื่อจะได้มาจับมือกันให้ได้ถึง 375เสียง นายชัชชาติ. กล่าวว่า ทุกวันนี้มี 2 แบบ คือ คนที่ยืนอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยจริง กับ คนที่อาศัยความเป็นประชาธิปไตยเข้ามา ทั้งที่ในจิตวิญญาณแล้วไม่ใช่ ที่เคยได้พูดถึงเรื่อง 375 เสียงไปนั้น ไม่ได้หมายความว่า เราจะสู้เอาเป็นเอาตายกัน ไม่ใช่ แต่ที่พูดเพราะกังวลว่า ฝ่ายที่ไม่ศรัทธาประชาธิปไตยจะอาศัยความเป็นประชาธิปไตยเข้ามาบังหน้า ฝ่ายที่ยึดมั่นประชาธิปไตยควรร่วมมือกัน และส่วนตัวเห็นด้วย หากพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะประกาศออกมาว่า ยืนอยู่ในฝ่ายใด สำหรับประเด็น4รัฐมนตรีที่ไปร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ควรลาออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น คงไม่ขอพูดถึงคนอื่น แต่ในกรณีของตนที่ตัดสินใจมาทำงานการเมือง ได้ลาออกจากการบริหารงานในบริษัทเอกชน เพราะถือว่า คงไม่แฟร์หากจะนำเอาเวลาจากการทำงานภาคเอกชนแล้วแบ่งมาทำงานการเมืองด้วย เรื่อง4รัฐมนตรีจะลาออกหรือไม่ ตนไม่ขอก้าวล่วง ขอให้เป็นเรื่องวิจารณญาณแต่ละท่าน   

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตคดีความต่างๆของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแม้แต่นายชัชชาติเอง ที่มีคดีในชั้นป.ป.ช. ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกหยิบยกมาในช่วงใกล้การเลือกตั้ง นายชัชชาติกล่าวว่า เชื่อมั่นในระบบยุติธรรม แต่พรรคไม่ได้พึ่งบุคคลากรคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ เราทำงานเป็นทีม อย่างกรณีของตน ที่มีคดีความอยู่ หากโดนจริงๆ ก็ยังมีบุคคลอื่นที่พร้อมเข้ามาทำหน้าที่ต่อได้ ก่อนหน้านี้เคยได้ชี้แจงไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรผิด.