ข่าวเผยวันนี้ความชื้นแค่36% ไม่เอื้อให้ขึ้นทำฝนหลวง - kachon.com

เผยวันนี้ความชื้นแค่36% ไม่เอื้อให้ขึ้นทำฝนหลวง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยถึงการตรวจสภาพอากาศของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่ จ.ระยอง และ จ.นครสวรรค์ เป็นวันที่10 ว่าเพื่อใช้วิเคาระห์ประเมินสถานการณ์การขึ้นทำฝนหลวงแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพและปริมณฑล โดยพบว่าพื้นที่จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทราและนครนายก มีค่าความชื้นในอากาศระดับการเกิดเมฆแค่ 36% ไม่เหมาะสมในการทำฝนหลวงที่ต้องมีความชื้นไม่ต่ำกว่า60% ขณะที่ค่าดัชนีการยกตัวเป็นบวกถึง8.2 ซึ่งค่าดัชนีเหมาะสมต้องลบ2 ดังนั้นโอกาสขึ้นทำฝนหลวงแทบเป็นไม่ได้ ทั้งนี้ระหว่างวัน จะตรวจวัดสภาพอากาศชั้นบนอีกครั้งช่วงบ่าย

ในส่วนภาคกลาง ข้อมูลวัดสภาพอากาศจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง นครสวรรค์ พบว่า ความชื้น49% ระดับควาามชื้นระดับบนลดลงแค่10%ค่ายกตัวเป็นบวก8.2 เพราะฉะนั้นเมื่อค่าดัชนีมวลอากาศไม่เหมาะสมกับการขึ้นทำฝนหลวง

นายสุรสีห์ กล่าวว่าในส่วนปัญหาฝุ่นละอองในอากาศเกิดขึ้นหลายประเทศ มีความรุนแรงเช่นกัน ทั้งจีน อินเดีย เมืองหลวงใหญ่ๆมีปัญหาทุกประเทศเร่งหาวิธีแก้ไข เช่นการฉีดน้ำ พ่นละอองน้ำ ส่วนประเทศไทย โชคดีมากที่มีศาสตร์พระราชาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะคิดค้นตำราฝนหลวงพระราชทานมาให้พวกเรา ซึ่งตำราฝนหลวงพระราชทานของพระองค์ท่านทรงช่วยดับทุกข์คนไทยมายาวนานทั้งแก้ไฟป่า หมอกควัน ภัยแล้ง ได้ทรงเขียนเป็นภาพอินโฟร์กราฟฟิค ไว้ตั้งแต่ปี2542 ซึ่งยุคนั้นแทบจะไม่มีอินโฟร์กราฟฟิค ทำให้ของพระองค์เป็นต้นแบบอินโฟร์กราฟฟิคยุคปัจจุบัน ทรงเขียนรวบรวมขนบธรรมเรียบไทย ต่างๆมาไว้ในกระดาษเอสี่ มีนางเมขลา เหมือนอุตุนิยมวิทยาแห่งเขาไกรลาส

อธิบดีกรมฝนหลวงฯกล่าวว่าในปี 42 พระองค์ทรงตั้งศูนย์ปฏิบัริการฝนหลวงพิเศษในปีนั้น ซึ่งภาพฝนหลวงพระราบทาน ทรงวาดรูปเครื่องบินสี่ลำ บินปฏิบัติการเมฆอุ่น ระดับ 7 พันฟุต รูปสุดท้ายเครื่องบินปรับความดัน ปฏิบัติการเมฆเย็น 2 หมื่นฟุตขึ้นไป เป็นระดับอุณภูมิติดลบ การทำฝนหลวงมี6 ขั้นตอน การก่อกวนในเรื่องการก่อเมฆ แม้ท้องฟ้าโปร่ง มีความชื้นสัมพันธ์ 60 สามารถขึ้นปฏิบัติการได้ใช้สารโซเดียมครอไรต์ ทำให้เมฆรวมตัวแล้วมาสู่ขั้นตอนสอง เลี้ยงให้อ้วน โดยใช้สารแคลเซียมครอไรต์ ใช้เครื่องบินโปรยสารที่ฐานเมฆ ให้เมฆพัฒนาตัวขึ้น เร่งให้สารจับเม็ดน้ำในก้อนเมฆ เกิดการพัฒนาตัวฟูขึ้นไป จะไปเข้าสู่ขบวนการขั้นตอนที่สามในเรื่องการโจมตี พระองค์พระรายทานนาม เทคนิก แซนวิส ใช้เครื่องบินสองลำ ใช้สารยูเรียไปโปรยใต้ฐานเมฆ และอีกลำโปรยสารโซเดียมครอไรด์ นักบินใช้ความชำนาญในการบินเกาะหมู่กันไป ในมุม45 องศา และพระองค์ทรงคิดค้นเทคนิกอื่นๆให้เมฆฝนไปตกในพื้นที่เป้าหมาย ถ้าใช้เฉพาะสารยูเรียฝนอาจตกไม่ทั่วถึงพื้นดิน ต้องใช้น้ำแข็งแห้ง โปรยใต้ฐานเมฆ บริเวณกลุ่มเมฆเป้าหมาย เป็นตัวทำให้มีฝนถึงพื้นดินได้