'เสี่ยหนู'เอาใจคนกรุงให้โควตาทำงาน4วันต่อสัปดาห์
การเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในลงพื้นที่พบปะประชาชนที่มาออกกำลังกาย โดยตลอดทาง นายอนุทินและคณะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปจำนวนมาก นอกจากนี้ ระหว่างทาง นายอนุทินยังได้พบและทักทายกับนายไกรเสริม โตทับเที่ยง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ซึ่งมาออกกำลังกายและลงพื้นที่พบประชาชนเช่นกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย โดยเหตุผลที่เลือกสวนสาธารณะ เพราะเป็นสถานที่ที่ประชาชนมาออกกำลังกาย เราจะได้สอบถามว่าคนกทม.ต้องการอะไร ซึ่งตนก็เพิ่งทราบว่า แม้พื้นที่สวนจะกว้างใหญ่ แต่ประชาชนยังต้องการวัสดุอุปกรณ์ในการออกกำลังกายมากกว่านี้ บางอย่างขอมาเป็นปีก็ยังไม่ได้ ซึ่งเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะได้รับชัยชนะในเขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมั่นใจในตัวนายไสว เพราะเป็น ส.ก.หลายสมัย ระหว่างเดินวันนี้ประชาชนทักทายนายไสวมากกว่าตนด้วยซ้ำ จึงค่อนข้างมีความมั่นใจ
เมื่อถามว่า ประเมินว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ส.ส.กี่ที่นั่งในกรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีศักยภาพทั้งนั้น เราจะทำเต็มที่ พรรคมีนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่คนกทม. โดยเฉพาะเรื่องแกร็บที่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ใช่หยุดทำงาน แต่ไม่ต้องเข้าสำนักงาน ให้ทำงานอยู่ที่บ้าน เพราะปัจจุบันผู้คนใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร เรื่องนี้จึงน่าจะช่วยลดปัญหาการจราจรได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งวันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มาก ถ้าลดปัญหาจราจรได้ ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันก็จะลดไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อถามว่า หลังจากประกาศความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี และขณะนี้วันเลือกตั้งมีความชัดเจนแล้ว พรรคภูมิใจไทยมีอะไรที่ต้องเร่งทำอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเตรียมพร้อมมานานแล้ว ทั้งการบริหารจัดการภายในพรรคและรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งวันสมัครจะมีขึ้นในวันที่ 4-8 ก.พ.นี้ เวลาที่เหลือคือโค้งสุดท้าย ขณะนี้ในบางเขตมีแคนดิเดตมากกว่า 1 คน เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำไมเขาจึงเหมาะสมที่จะลงสมัคร
เมื่อถามว่า หลายพรรคการเมืองเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการหาเสียงให้ชัดเจน เช่น การโพสต์เฟซบุ๊ก นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา ระเบียบต่างๆเขียนมาชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ เราก็ทำตามนั้น ดีที่สุดคือไม่ต้องโพสต์ แต่ลงไปหาชาวบ้าน จะเป็นสิ่งที่มีผลมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ตนเลิกโพสต์แล้ว
"ต้องขยันเดินเคาะทุกประตูบ้าน เอานโยบายของพรรคไปนำเสนอ ไม่ใช่อยู่บ้าน พิมพ์อะไรแล้วเอากล้องมือถือมาถ่ายคลิปตัวเอง แล้วก็มาบอกให้คนเลือกตัวเอง ไม่มีใครเขาเลือกหรอก" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า แต่บางฝ่ายวิจารณ์ว่าบรรยากาศการหาเสียงควรเป็นไปอย่างเสรีมากกว่านี้ นายอนุทินกล่าวว่า แค่นี้ก็ดีแล้ว 5 ปีเราทนมาได้ ตอนนี้ก็หมดแล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมตั้งเยอะ อย่าไปบ่นอะไรในอดีตเลยเพราะย้อนเวลากลับไปไม่ได้ มองไปข้างหน้าดีกว่าว่าเราจะทำอะไร
ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เสียงที่ได้ยินจากการพบปะประชาชน กทม. คือคน กทม.ต้องการความปลอดภัยมากกว่านี้ ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยต้องกลับไปขบคิดเพื่อหาแนวทางมาตอบสนองพี่น้องประชาชน แต่ส่วนตัว เสนอให้บูรณาการเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่การของบมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย.