'ธนาธร'โชว์จุดแข็งส่งผู้สมัครหน้าใหม่ไร้ระบบอุปถัมภ์
การเมือง
Webmaster
2019-01-25 16:19:00
20
Webmaster
2019-01-25 16:19:00
20
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ซ.พหลโยธิน 7 (อารีย์) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายคริสต์ โปรตะนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 พญาไท ราชเทวี จตุจักร พร้อมทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.และนโยบายของพรรคกับประชาชนและร้านค้าในย่าน ซ.อารีย์ โดยมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูปกับนายธนาธรจำนวนมาก
ทั้งนี้นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่าถึงความพร้อมในการเลือกตั้งหลังมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งว่า เรามีความพร้อมในทุกด้านโดยจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต และในส่วน กทม.ครบทั้ง 30 เขต เราส่งคนใหม่ทั้งหมดเลยและเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบอุปถัมภ์หรือเป็นนักการเมืองมาก่อน ซึ่งคิดว่านี่จะเป็นจุดแข็งของเรา ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายพรรคที่เปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาก็มีพร้อมและได้รับเสียงตอบรับจากนักวิชาการและประชาชนทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ในส่วนของตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก็ครบแล้ว 70 จังหวัด อีก 7 จังหวัดอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางเอกสารกับ กกต.ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณี กกต.มีประกาศเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียงนั้น นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนสับสนมาก แต่ยืนยันว่าประชาชนยังสามารถโพสต์โซเชียล และแสดงความคิดเห็น มีสิทธิเสรีภาพในการพูด การโพสต์เฟซบุ๊กหรือใช้โซเชียลเป็นปกติ และขอให้ประชาชนอย่าเข้าใจผิด สำหรับในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองก็ยังมีเสรีภาพอยู่เพียงแต่ว่าต้องลงทะเบียนก่อนว่าโซเชียลมีเดียของตัวเองมีกี่ช่องทางเมื่อลงทะเบียนกับ กกต.เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถโพสต์ได้ตามปกติ แต่ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าการต้องลงทะเบียนกับ กกต.ทำให้เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย เป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ทั้งที่ก่อนหน้ามี พรฎ.ทุกคนก็ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อใกล้การเลือกตั้งสิ่งเหล่านี้ก็ควรจะทำได้เหมือนเดิม ซึ่งตนคิดว่าอาจเรื่องนี้อาจจะเป็นอุปสรรค
นายธนาธร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ทุกเพจ และช่องทางดำเนินการตามระเบียบของกกต.เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในส่วนป้ายหาเสียงก็เช่นกัน ขอให้ กกต.มีความชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นพรรคที่เป็นพรรคใหม่ก็จะเกิดการเสียเปรียบ ซึ่งเราเห็นว่ากฎเกณฑ์การเลือกตั้งต่างๆ ในรอบนี้เป็นกฎที่ตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่จะจำกัดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง ตนขอเรียนว่าพรรคการเมืองไม่ใช่หน่วยงานราชการ พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลที่มีอิสระ เสรีภาพที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ ตนคิดว่ากฎหมายที่เขียนขึ้นมาเสมือนว่าพรรคการเมืองเป็นหน่วยงานราชการทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละพรรคการเมืองน้อยลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาธิปไตยในระยะยาว
เมื่อถามถึงกรณี 4 รมว.ของพรรคพลังประชารัฐยังไม่ลาออก นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐทำ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ลาออกของแกนนำพรรค การใช้อำนาจเพื่อผลักดันให้ประชาชนมาเลือกตัวเองเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อพรรคอื่น ต้องบอกว่าพรรคพลังประชารัฐและคสช.ทำอะไรไม่เกรงใจประชาชน เป็นการทำอะไรที่ไม่ยางอาย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เรียกร้องเรื่องคุณธรรม ความถูกต้องมาตลอด 4 ปี เมื่อถึงเวลาที่ตัวเองต้องแสดงความจริงใจให้ประชาชนเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณธรรม หรือความถูกต้องก็ดี แต่ตัวเองกลับไม่ทำ แสดงให้เห็นแล้วว่า คสช.และการทำรัฐประหารแก้ปัญหาของประเทศไม่ได้
ขณะที่นายคริส กล่าวว่า พวกเราเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง แต่พวกเราไม่ได้อ่อนประสบการณ์ เพราะมีประสบการณ์การทำงานที่ประสบความสำเร็จในภาคเอกชน และธุรกิจของตัวเอง ซึ่งในทางการเมืองเราพร้อมจะนำสิ่งใหม่ๆ มาให้กับประชาชน.
ทั้งนี้นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่าถึงความพร้อมในการเลือกตั้งหลังมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งว่า เรามีความพร้อมในทุกด้านโดยจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต และในส่วน กทม.ครบทั้ง 30 เขต เราส่งคนใหม่ทั้งหมดเลยและเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบอุปถัมภ์หรือเป็นนักการเมืองมาก่อน ซึ่งคิดว่านี่จะเป็นจุดแข็งของเรา ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายพรรคที่เปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาก็มีพร้อมและได้รับเสียงตอบรับจากนักวิชาการและประชาชนทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ในส่วนของตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก็ครบแล้ว 70 จังหวัด อีก 7 จังหวัดอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางเอกสารกับ กกต.ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณี กกต.มีประกาศเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียงนั้น นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนสับสนมาก แต่ยืนยันว่าประชาชนยังสามารถโพสต์โซเชียล และแสดงความคิดเห็น มีสิทธิเสรีภาพในการพูด การโพสต์เฟซบุ๊กหรือใช้โซเชียลเป็นปกติ และขอให้ประชาชนอย่าเข้าใจผิด สำหรับในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองก็ยังมีเสรีภาพอยู่เพียงแต่ว่าต้องลงทะเบียนก่อนว่าโซเชียลมีเดียของตัวเองมีกี่ช่องทางเมื่อลงทะเบียนกับ กกต.เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถโพสต์ได้ตามปกติ แต่ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าการต้องลงทะเบียนกับ กกต.ทำให้เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย เป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ทั้งที่ก่อนหน้ามี พรฎ.ทุกคนก็ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อใกล้การเลือกตั้งสิ่งเหล่านี้ก็ควรจะทำได้เหมือนเดิม ซึ่งตนคิดว่าอาจเรื่องนี้อาจจะเป็นอุปสรรค
นายธนาธร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ทุกเพจ และช่องทางดำเนินการตามระเบียบของกกต.เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในส่วนป้ายหาเสียงก็เช่นกัน ขอให้ กกต.มีความชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นพรรคที่เป็นพรรคใหม่ก็จะเกิดการเสียเปรียบ ซึ่งเราเห็นว่ากฎเกณฑ์การเลือกตั้งต่างๆ ในรอบนี้เป็นกฎที่ตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่จะจำกัดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง ตนขอเรียนว่าพรรคการเมืองไม่ใช่หน่วยงานราชการ พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลที่มีอิสระ เสรีภาพที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ ตนคิดว่ากฎหมายที่เขียนขึ้นมาเสมือนว่าพรรคการเมืองเป็นหน่วยงานราชการทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละพรรคการเมืองน้อยลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาธิปไตยในระยะยาว
เมื่อถามถึงกรณี 4 รมว.ของพรรคพลังประชารัฐยังไม่ลาออก นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐทำ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ลาออกของแกนนำพรรค การใช้อำนาจเพื่อผลักดันให้ประชาชนมาเลือกตัวเองเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อพรรคอื่น ต้องบอกว่าพรรคพลังประชารัฐและคสช.ทำอะไรไม่เกรงใจประชาชน เป็นการทำอะไรที่ไม่ยางอาย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เรียกร้องเรื่องคุณธรรม ความถูกต้องมาตลอด 4 ปี เมื่อถึงเวลาที่ตัวเองต้องแสดงความจริงใจให้ประชาชนเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณธรรม หรือความถูกต้องก็ดี แต่ตัวเองกลับไม่ทำ แสดงให้เห็นแล้วว่า คสช.และการทำรัฐประหารแก้ปัญหาของประเทศไม่ได้
ขณะที่นายคริส กล่าวว่า พวกเราเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง แต่พวกเราไม่ได้อ่อนประสบการณ์ เพราะมีประสบการณ์การทำงานที่ประสบความสำเร็จในภาคเอกชน และธุรกิจของตัวเอง ซึ่งในทางการเมืองเราพร้อมจะนำสิ่งใหม่ๆ มาให้กับประชาชน.
