ข่าว'มาร์ค' ลุยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เมืองเหนือ - kachon.com

'มาร์ค' ลุยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เมืองเหนือ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ อาทิ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรมช.คลัง ได้ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. 62 เขตเลือกตั้ง ใน 16 จังหวัดภาคเหนือ โดยนายอภิสิทธิ์และคณะ ได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ พร้อมทั้งถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ก่อนจะเดินทางไปยังพุทธสถานเชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชนประมาณ 2,000 กว่าคน พร้อมแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. 62 คนใน 16 จังหวัดภาคเหนือ และปราศรัยเน้นย้ำนโยบายของพรรค "แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" ซึ่งถือเป็นเวทีแรกหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ขณะที่บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก ไม่มีการต่อต้านนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยว่า เราพบว่าประชาชนร้อยละ 49.2 ไม่เลือกนักการเมืองย้ายพรรค แม้มีการตั้งพรรคใหม่หรือย้ายพรรคกันมากมาย แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นสถาบันการเมืองที่อยู่กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่แค่พรรคเก่าแก่ แต่เป็นพรรคที่มองสู่อนาคต วันนี้มีหลายพรรคลงแข่งขันกันนั้น ผู้สมัครทุกคะแนนจะไม่ต่างกันมากนัก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ผู้สมัครของเราบางเขตบอกได้เลยว่าแค่เขย่งก็แตะป้ายเข้าเส้นชัยแล้ว บางเขตตั้งหลักมาแต่ไกล บางเขตถอยหลังแล้ววิ่งมาแต่ไกล เอาแรงทั้งหมดแตะไปให้ถึงเส้นชัย เช่น พิษณุโลก เขต 4 คือ น.ส.มุธิตา ทองคำนุช เป็นผู้สมัครหน้าใหม่เดิมไม่มีใครรู้จัก แต่ขยัน ตื่นเช้าไปขอแคะแนนจากประชาชน และกลับบ้านดึกทุกคืน 5- 6 เดือนมาวันนี้หายใจรดต้นคอแชมป์แล้ว ทั้งนี้พรรคฯ จะทำอะไรให้คนไทยและชาวเชียงใหม่บ้าง จะสร้างคนและสร้างชาติอย่างไร วันนี้ท่านมีโอกาสแก้มือแล้ว อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดไป ตนเชื่อมั่นว่าภาคเหนือมีโอกาสยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าในอดีต ที่พรรคประชาธิปัตย์มีรัฐมนตรีจากเชียงใหม่ มาสร้างความเจริญให้ภาคเหนือ วันนี้สวรรค์เข้าข้างเรา ฟ้าเปิดแล้ว เป็นโอกาสดี กุญแจของความสำเร็จไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้หัวใจกับความขยันเท่านั้น

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับชาวเหนือมามากกว่า 70 ปี ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งพรรคหลายคนก็มีพื้นเพอยู่ในภาคเหนือ ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่ดูแลพี่น้องชาวเหนือมาตลอด และได้รับการสนับสนุนจากชาวเหนืออย่างดี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มีการเปลี่ยนกฎกติกาใหม่ โดยเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากเท่าไหร่ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้ ส.ส.มากเท่านั้น ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนรอคอยการเลือกตั้ง ขณะที่ยังต้องประสบกับปัญหาปากท้อง ถึงเวลาแล้วที่จะใช้การเลือกตั้งครั้งนี้มาทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากความยากจนและปัญหาเศรษฐกิจ โดยพรรคจะนำพาประเทศด้วยนโยบาย"แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" ย้ำว่าพรรคจะไม่เลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ปรับปรุงด้วยการไม่บังคับให้ใช้ซื้อของในร้านธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น และอาจจะเพิ่มเงินให้ด้วย นอกจากนี้จะแก้จนถึงรากเหง้าให้คนมีที่ทำกิน โดยจัดระบบใหม่ด้วยการทำโฉนดสีฟ้า ด้านการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร จะกำหนดราคาเป้าหมายให้พืชเกษตรทุกชนิด และใช้การประกันรายได้ให้กับแรงงานที่อาจมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยเติมเงินส่วนต่างให้ เบื้องต้นตั้งเป้าเติมเงินส่วนต่างเพื่อให้แรงงานทุกคนมีรายได้ต่อปีถึงปีละ120,000 บาท



หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เราจะตั้งกองทุนน้ำชุมชนที่เป็นการนำเงินนี้ไปช่วยให้เกิดสระน้ำในที่ดินของประชาชนในชุมชน รวมถึงจะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทั้งนี้ สิ่งที่เราทำนี้เพื่อให้ประชาชนมีความอุ่นใจและมีความมั่นคง เป็นสิทธิ์ของประชาชน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนให้หรือนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้จะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดตัวเอง มีระบบการจัดการตนเองตามความต้องการของคนในจังหวัด สำหรับภาคเหนือจะสร้างอารยธรรมล้านนาโดยมีจ.เชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้คนในพื้นที่สามารถจัดการตัวเองได้และไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งตัวเมืองเชียงใหม่ควรมีระบบพิเศษได้แล้ว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องสุจริต ประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องเป็นนายกฯ ที่ฟังเสียง ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่โผล่หน้ามาทางทีวีแล้วดุคนอื่นตลอดเวลา และต้องเป็นนายกฯ ที่เคารพการตรวจสอบโดยประชาชน สื่อมวลชน องค์กรอิสระ และองค์กรตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อจะได้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีชาติไหนที่สร้างได้ด้วยผู้มีอำนาจที่ทุจจริต เราจึงต้องการมีผู้นำที่มีความสุจริต พรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน ซึ่งมีผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วโดยไม่เคยมีคนไหนที่ต้องมลทิน

จากนั้น นายอภิสิทธิ์และคณะ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมพบปะผู้แทนองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีน 41 องค์กร ที่ศาลเจ้าปุงเถ่ากงเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนจะเดินไปพบปะประชาชนในตลาดวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่จับจ่ายสินค้าให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมขอถ่ายรูปคู่กับนายอภิสิทธิ์ด้วย.