ข่าว เจรจาไร้ผล!ม็อบต้าน4โครงการเขื่อนปักหลักข้างทำเนียบฯ - kachon.com

เจรจาไร้ผล!ม็อบต้าน4โครงการเขื่อนปักหลักข้างทำเนียบฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้บริหารกรม ได้รับมอบหมายจากนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรฯให้มาเจรจากับเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่า จ.นครศรีธรรมราช-พัทลุง ที่ปักหลักชุมนุมเป็นวันที่4 เรียกร้องยกเลิก4โครงการ สร้างเขื่อนวังหีบ เขื่อนคลองสังข์ โครงการผันน้ำเลี่ยงเมืองนครศรีธรรมราช และโครงการประตูน้ำปากประ กั้นน้ำเค็ม



นายทองเปลว กล่าวภายหลังหารือกับแกนนำเครือข่ายฯว่าแกนนำและชาวบ้าน ยังยืนยันให้ยกเลิกทั้ง4 โครงการ และให้มาเริ่มนับหนึ่งใหม่  ซึ่งทางกรมชี้แจงว่ากว่าจะมาถึการดำเนินการในปัจจุบัน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทุกประการ ได้มีการเปิดเวทีประชาพิจารณ์ในพื้นที่ทุกโครงการ รวมแล้วกว่า 55 ครั้ง ซึ่งได้เจรจาว่าจะทบทวนรายละเอียดแต่ละโครงการ เช่น การขุดคลอง สามารถปรับรูปแบบขนาดคลองเพื่อลดผลกระทบได้ หรือขนาด และตำแหน่งการสร้างของเขื่อน และฝาย สามารถขยับได้  เป็นต้นโดยทั้งหมดจะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันในระดับจังหวัดและท้องที่อย่างไรก็ตามผลการเจรจานั้นทางแกนนำก็ยังไม่พอใจ แต่สำหรับโครงการประตูน้ำกั้นน้ำปากประ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พัทลุง ทราบว่าผู้ยื่นถวายฎีกา เพื่อขอให้แก้ปัญหาน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตร นั้น ยินดีไปถอนเรื่องจากสำนักราชธิการพระราชวัง ต่อไป เนื่องจากปัญหาดังกล่าว 50 ปี จะเกิดขึ้นเพียง 1 ครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องมีโครงการดังกล่าว



นายทองเปลว กล่าวชี้แจงว่า สำหรับโครงการเขื่อนวังหีบ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เขณะนี้ยังไม่มีการออกแบบแต่อย่างใด    หากชาวบ้านในพื้นที่เป็นการบุกรุกป่าและกระทบที่อยู่อาศัย พร้อมที่จะหารือร่วมกัน นำความเห็นของชาวบ้านมาปรับขยับแนวก่อสร้างเขื่อนได้ ที่ให้เหมาะสมกับการแก้ปัญหาอุกทภัยและขาดแคลนน้ำหน้าแล้ง สำหรับกรณีที่กล่าวหาว่าคลองวังหีบ ไม่ได้ผ่านเขตเมือง ทุ่งสง ไม่ได้แก้ปัญหาอุทกภัยได้และปริมาณน้ำมีมากกว่า 40 ล้านลบ.ม.ต่อปี จึงไม่ได้ขาดแคลนน้ำนั้น ขอชี้แจงว่าโครงการนี้ เกิดจากในปี33 นายด้วง จิตงาม ผู้ใหญ่บ้าน ทุ่งสง ทำถวายฏีกา เพื่อขอให้แก้ปัญหาอุทกภัยและเก็บน้ำไว้ฤดูแล้ง ทำเกษตร ซึ่งโครงการนี้อาจไม่ได้ช่วยแก้ไขน้ำท่วมทุ่งสงโดยตรง แต่เขื่อนช่วยลดยอดน้ำที่จะไหลมาเอ้อท่วมในเมือง



ทั้งนี้สำหรับโครงการคลองผันน้ำเมืองนครศรีธรรมราช ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณ 9,560 ล้านบาท (ปี61-63)ขณะนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องขุดขยายคลองเพื่อลดอุทกภัยตัวเมืองนคร เนื่องจากคลองเดิมมีปัญหาบุกรุกทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้  ซึ่งในเรื่องนี้แม้ว่าจะดำเนินการโครงการไปแล้ว แต่ในบางรายละเอียดพร้อมคุยทุกฝ่าย เพื่อหาจุดที่ทุกคนรับได้เช่นหากเห็นว่าคลองกว้างไป จะปรับขุดแนวลึกแทน แต่ทั้งนี้คงขนาดรับน้ำได้ 700ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อระบายน้ำออกจากเมืองเร็วที่สุด โดยสามารถทำงานคู่ขนานไปกับการเดินหน้าโครงการได้



นอกจากนี้โครงการเขื่อนคลองสังข์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นเขื่อนขนาดกลาง งบไม่ถึง 1 พันล้านบาท ไม่ต้องเข้าครม. ดำเนินการโดยกรมชลประทาน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นฝาย ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงต้องขยายโครงการ ให้รับน้ำได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อปี54 นายฉลอง เทพจินดา ผู้ใหญ่ ถวายฏีกา ขอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจ โดยกรมชลฯใช้งบปี61-62 อย่างไรก็ตามทุกโครงการแม้ว่าเปิดโครงการแล้วก็สามารถมาเจรจาปรับโครงการได้ ซึ่งกรมชลฯพร้อมรับข้อเสนอจากชาวบ้านไม่ได้ลุยทำแต่อย่างเดียว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น แกนนำเครือข่ายและชาวบ้าน เดินเท้าและใช้เชือกผ้าสีผ้าผูกมัดข้อมือเรียงเป็นแถว เหมือนโดนพันทะนาการ มายังทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับถือพานใส่เส้นผมของชาวบ้านทุกคน ที่ให้คำสาบานร่วมกันจะต่อสู้นจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกโครงการ ซึ่งระหว่างทาง พล.ต.ต.ภัครพงษ์ พงษ์เภตรา รองผบ.ชน.มาเจราให้ยุติการเดินเท้าไปทำเนียบ และให้ตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี มารับเรื่องโดยไม่ต้องเคลื่อนที่ แต่นายจักรพันธ์ พรหมมงคล แกนนำ ฯยืนยันว่าจะขอเดินทางไปอย่างสงบ เพื่อไปรับคำตอบแนวทางแก้ไขปัญหา ที่ทำเนียบ และระมัดระวังไม่ให้มีเหตุการณ์วุ่นวาย หากมีการฝ่าฝืนให้จับกุมได้ทันที จากนั้นม็อบได้เคลื่อนมาเรื่อยๆมาปักหลักด้านข้างทำเนียบฯบริเวณถนนข้างมหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร 



ทั้งนี้มีกำลังตำรวจ กว่า30 นาย ได้มาตั้งแถวกันไม่ให้ฝ่าไปถึงประตูทำเนียบ โดยติดประกาศ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 มาตรา7 ห้ามมิให้ชุมนุนในรัศมี50เมตรรอบทำเนียบฯฝ่าฝืนมีความผิด ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน6 เดือน หรือปรับไม่เกิน1หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งแกนนำได้ลงชื่อรับทราบคำชี้แจงตามพ.ร.บ.แล้ว ขอใช้เวลา2 ชม.ในการรอคำตอบจากผู้อำนาจตัดสินใจยกเลิกทั้ง4 โครงการ แต่ครบ2 ชม.ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาให้คำตอบ แกนนำม็อบและชาวบ้าน ร่วมกันร้องเพลง นั่งปักหลักต่อไปบางคนร้องไห้เสียงดังขอให้นายกรัฐมนตรี ยกเลิกโครงการ เพราะมีความเดือดร้อนหนักมากที่จะไม่มีที่อยู่ที่ทำกินต้องอพพยจากการสร้างเชื่อน ขายรถมอเตอร์ไซส์ เป็นค่าเดินทาง ซึ่งตำรวจระดับผู้ใหญ่ มาขอร้องให้เดินกลับไปรอฟังท่าทีของรัฐบาลหน้ากระทรวงเกษตรฯ



เมื่อเวลา14.30น.โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มาประกาศห้ามชุมนุม ตามพ.ร.บ.ห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมี50เมตร ประกอบกับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้ ลงนามโดยพล.ต.ต.ภัครพงษ์ พงษ์เภตรา รองผบ.ชน.ให้ผู้ชุมนุมขยับขึ้นไปบนฟุตบาทด้านข้างม.ราชมงคลพระนคร เป็นพื้นที่นอกเขตรัศมี50เมตร.