ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานคดีอาญา
การเมือง
นายพุทธิพงศ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา 1.ให้มีการปรับปรุงนิยามคำว่า “พยาน” หมายความว่าบุคคลซึ่งจะมาหรือให้ข้อเท็จจริงต่อศาล ในการดำเนินคดีอาญารวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ แต่มิให้หมายรวมถึงจำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยาน และเพิ่มบทนิยาม คำว่า “ พนักงานเจ้าหน้าที่” เพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมาะสมยิ่งขึ้น 2.กำหนดให้คดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นคดีมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน 3.ในกรณีที่พยานอาจไม่ได้รับความปลอดภัย อาจจัดให้พยานอยู่ในความมคุ้มครองตามที่เห็นเป็นการสมควร หรือตามที่พยานหรือบุคคลใดซึ่งมีประโยชน์เกี่ยวข้องร้องขอ การคุ้มครองให้พยานได้รับความปลอดภัยรวมถึงจัดให้พยานอยู่ในสถานที่ปลอดภัย เว้นแต่พยานจะไม่ให้ความยินยอม และการปกปิดมิให้มีการเปิดเผยชื่อตัว ชื่อ สกุล ที่อยู่ ภาพหรือข้อมูลอย่างอื่นที่สามารถระบุตัวพยานได้
4.กำหนดให้ในระหว่างการรอพิจารณา ตามมาตรา 9 กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันมิให้พยานได้รับอันตราย สำนักงานคุ้มครองพยานอาจใช้มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานไปพลางก่อนหรือประสานหน่วยงานอื่นที่มีภารกิจเกี่ยวข้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยไปก่อนได้ 5.การดำเนินการเพื่อคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ เช่น ย้ายที่อยู่ จัดหาที่พักอันเหมาะสม จ่ายค่าเลี้ยงชีพ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ และพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล การจ่ายเงินดำรงชีพที่เหมาะสม ให้กับพยานและผู้ใกล้ชิดที่ได้รับผลกระทบจากการมาเป็นพยานในคดีอาญา 6.ให้สำนักงานคุ้มครองพยานได้รับยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์เช่นเดียวกับข้าราชการทหารและตำรวจ
7.การปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.บ.นี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเฉพาะเรื่องที่ได้รับมอบหมาย 8.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.นี้ต้องผ่านการฝึกอบรมตามที่กำหนด และ 9.กำหนดโทษสำหรับผู้ที่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับสถานที่อยู่ ชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ ภาพหรือข้อมูลอย่างอื่นที่สามารถระบุตัวพยาน สามี ภรรยา บุพการี ผู้สืบสันด้าน หรือบุคคลอื่น ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องระวางโทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนด.