'บิ๊กตู่'ไม่ลาออก!พร้อมนั่งนายกฯในบัญชีพรรคการเมือง
การเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมือง ว่า ย้ำว่าต้องให้พรรคการเมืองมาเชิญก่อน เมื่อเชิญแล้วต้องมีระยะเวลาในการศึกษานโยบายว่ามีความเป็นไปได้และรับได้หรือไม่ หากตนจะไปร่วมทางการเมือง เพราะในเมื่อทำมา 4-5 ปี รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรและต้องศึกษากฎหมายทุกตัว รวมถึงระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณ การหารายได้รายจ่ายของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นการทำอะไรนอกเหนือจากนี้ต้องระวังข้อกฎหมายด้วย จึงขอเชิญชวนทำที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินศึกษาเรื่องหลายนี้ด้วย เพื่อทำนโยบายให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงกับประชาชนและประเทศชาติ
“หากพรรคการเมืองมาเชิญ ผมขอเวลาสักนิดในการพิจารณาว่าควรจะอยู่หรือไม่อยู่ ทำต่อหรือไม่ทำต่อ และทำอะไรมากน้อยแค่ไหน ก็ยังมีเวลาที่ผมตัดสินใจ ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายกฯเป็นช่วงวันที่ 4-8 ก.พ.นี้ ผมก็จะพิจารณาในช่วงนั้น ก็จะรู้กันตอนนั้นว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ จึงอย่าเพิ่งเร่งรัดผมมากนัก ขณะเดียวกันเรื่องบทบาทของผม ได้มอบหมายให้ที่ประชุมวันนี้ โดยขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย กฤษฎีกา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเยี่ยมประชาชน การประชุมครม.นอกสถานที่ และการพูดในคืนวันศุกร์ ว่าทำได้มากน้อยอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเมืองต่อไปในการทำผิดกฏหมาย ซึ่งต้องรอบคอบในการตัดสินใจของผม รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียต้องถามกกต.ว่าจะทำได้มากน้อยอย่างไร ซึ่งผมต้องระมัดระวังให้มากที่สุด ผมอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ก็ต้องระวังระดับหนึ่ง ถ้าผมไปร่วมในร่วมในรายชื่อของเขาหรือตอบรับขึ้นมาก็ต้องระวังอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งต้องไปหารือกันขอให้ช่วยมองด้วยว่าผมทำอะไรดีๆหรือเปล่า"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงวันที่ 4-8 ก.พ.นี้ จะเป็นช่วงเวลาที่พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ จะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกฯและหัวหน้าคสช.หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ลาออกแล้วใครจะทำ ไม่ออก ยังเป็นนายกฯอยู่นี่แหละ กฎหมายไม่ได้ให้ออกก็ไม่ออก และตำแหน่งคสช.เขาบอกให้อยู่ถึงเมื่อไหร่" ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวตอบว่า เมื่อมีรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "นั้นแหละ ก็อย่ามาถามซ้ำ อย่างไรก็ตามในการตัดสินใจ ผมก็มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้วว่าจะอยู่ไม่อยู่ เพราะมีคำตอบอยู่ในใจขั้นแรกอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกไปแล้ว่าขอดูก่อน ดูนโยบายต่างๆว่าจะมีปัญหากับการเป็นนายกฯ หรือไม่ เพราะผมคงไม่ออกจากนายกฯและหน้าคสช.อยู่แล้ว ถ้าให้ระมัดระวังตัวเองก็คงไม่ต้องพูดอะไรเลย และการตัดสินใจผมก็ไม่ต้องปรึกษาครอบครัว เพราะเป็นเรื่องของผม แต่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ของผมอยู่แล้ว และให้เกียรติซึ่งกันและกัน"
เมื่อถามอีกว่า หากตัดสินใจแล้วจะอยู่ในบัญชีหรือนอกบัญชีนายกฯอะไรเสี่ยงกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องอยู่ในบัญชีไม่มีเป็นอย่างอื่น เดี๋ยวบอกเป็นนายกฯคนนอกคนในวุ่นวายไปหมด ถ้าจะอยู่ก็อยู่ในบัญชีเท่านั้น
ทั้งนี้ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่การเผยแพร่คลิปทหารติดตามการลงพื้นที่หาเสียงของนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธ์ศาสตร์การเลือกดั้งพรรคเพื่อไทย ว่า ทหารติดตามทุกพรรคอยู่แล้ว และรายงานให้ตนทราบมาโดยตลอด.