เผยหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การเมือง
6 เม.ย. ที่จะมีพลีกรรม ตักน้ำทุกจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
8-9 เม.ย. พิธีปลุกเสกน้ำทุกจังหวัดพร้อมกัน
18-19 เม.ย. ปลุกเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าต้องเป็นน้ำสะอาด ต้องมีการพิสูจน์ คัดกรองอย่างดี บริสุทธิ์ และเป็นมงคล เพื่อใช้ในพระราชพิธี
22-23 เม.ย. พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ
2 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จบวงสรวงด้วยพระองค์เอง
3 พ.ค. พิธีเชิญพระสุพรรณบัฏเข้าวัง ประกาศการบรมราชาภิเษก โดยจะมีคณะรัฐมนตรีร่วมด้วย
4 พ.ค. จะมีกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงค่ำ ตั้งแต่การบรมราชาภิเษก การถวายพระพร ประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภก สักการะพระบรมอัฐิ เฉลิมพระแท่นบรรจถรณ์
5 พ.ค. ช่วงเช้าจะเฉลิมพระปรมาภิไธย ขณะที่ช่วงเย็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเลียบพระนคร
6 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกให้ประชาชนและคณะทูตเข้าเฝ้า ซึ่งคณะกรรมการจัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีมติให้วันที่ 6 พ.ค.เป็นวันหยุด เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เป็นไปด้วยดี
ทั้งนี้วันที่ 9 พ.ค. จะเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 150 วันที่จะต้องจัดการเลือกตั้ง ซึ่งตรงกับวันพืชมงคล แต่ไม่มีผลกระทบอะไรกับวันเลือกตั้ง และยังมีกิจกรรมอีกมากมายหลังพระราชพิธีสำคัญที่จะต้องทำเพื่อถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอให้เข้าใจด้วย ว่าเหตุใดเราจึงต้องทำให้เดือนพ.ค.สงบเรียบร้อย เป็นเดือนแห่งความเรียบร้อย ในช่วงนั้นการเมืองก็เดินหน้าไปสู่การเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ก็คงไม่วุ่นวายเท่าใด แต่ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันทำบ้านเมืองให้สงบด้วย