ข่าว'บิ๊กตู่'มาโหด!ขู่วิ่งรถวันคู่วันคี่ คาดโทษผอ.เขตแก้ฝุ่นพิษไม่ได้ - kachon.com

'บิ๊กตู่'มาโหด!ขู่วิ่งรถวันคู่วันคี่ คาดโทษผอ.เขตแก้ฝุ่นพิษไม่ได้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตไทย อนาคตเรา :Our County Our Future โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาฝุ่นละออง ว่า วันนี้เรายังมีปัญหาฝุ่นละออง pm 2.5 และยังมีการเผาวัชพืช แต่ตนไม่อยากไปรังแกเกษตรกร ซึ่งมีหลายคนบอกว่าตนไปตัดรอนและโจมตีเกษตรกรว่าสร้างฝุ่น pm 2.5 ยืนยันว่าตนไม่ได้พูดเช่นนั้น แต่เพียงขอให้ทุกคนมีส่วนร่วมช่วยกัน ไม่ว่าใครจะทำอะไรตรงไหนให้เกิดการเผาที่มีผลให้เกิด pm 2.5 และ pm 10 เพราะมีผลต่อสุขภาพทั้งสิ้น และมีผลต่อเยื้อบุจมูก จึงต้องไปดูที่มาของฝุ่นที่มาจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม การปล่อยควันต่างๆ ซึ่งจะสั่งการให้มีการสำรวจทั้งหมด ขณะเดียวกันวันนี้เริ่มมีการหาเสียงโจมตีว่ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ ยืนยันรัฐบาลทำทุกมาตรการ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่บางคนบอกรัฐบาลไม่สนใจ ไม่ให้หน้ากาก ทำหน้ากากหลุดแล้วทำอย่างไร ตนก็ถามกลับว่าต้องใส่หน้ากากให้ใหม่หรือไม่ เขียนไปได้ทั้งหมดในโซเชียล เด็กๆ วิ่งแล้วหน้ากากหลุดแล้วนายกฯ จะคิดอะไรได้อีก ซึ่งทุกคนมีหน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว ทั้งนี้สิ่งที่ตนสั่งไปแล้วคือ ต้องแจ้งสถานะของสภาพอากาศทุกวันในทุกสถานที่ ของกทม.ทุกเขต หากเขตใดไม่แก้ไขอะไรเลยไม่ชี้แจงว่าทำอะไรไปแล้วบ้างจะลงโทษผอ.เขต และหัวหน้างานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นหน่วยวิชาการในการวัดและแจ้งข้อมูล ส่วนในเรื่องการจราจร การตรวจรถควันดำก็พยายามตรวจทุกพื้นที่ เมื่อตรวจมากก็บอกว่ารถติดกลายเป็นโดนด่าอีก ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของรถควรมีจิตสำนึก หากสภาพรถตัวเองเป็นอย่างไรก็อย่าขับออกมา

"ก่อนเอารถออกตรวจจากอู่ก่อนได้ไหม ไม่ต้องให้ตำรวจไล่ตรวจบนถนน รถดีเซลจะทำยังไงมีทั้งรถเมล์ รถขนส่ง รถบัส รถเยอะแยะไปหมดให้ตรวจจากอู่มา ต่อจากนี้ถ้เป็นอย่างนี้อยู่เจอตรงไหนให้ตรวจตรงนั้น ไปหารถมารับเอง ถ้าทุกคนให้ผมเข้มงวดผมจะทำให้ ควันดำเมื่อไหร่ให้จอดตรงนั้นเอารถไปเก็บจนกว่าจะปรับปรุงแล้วให้วิ่งได้ ผมจะสั่งแบบนี้ ดูสิจะเดือดร้อนกันไหม ผมไม่ต้องการให้คนเดือดร้อนทุกคนต้องสำนึก ต่อไปรถที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่ที่อากาศแบบนี้ ถ้าแก้ไม่ได้อีกต่อไปก็ให้วิ่งรถวันคี่วันคู่ ห้ามรถดีเซลวิ่งบนถนนเส้นนี้มันจะมีปัญหาอีกไหม ทุกคนบอกผมอ่อนเกินไปในเรื่องนี้ ไม่เข้มงวดไม่จริงจัง ผมพร้อมทำทุกอย่าง แต่ทุกคนต้องร่วมมือ ให้รีบไปแก้ตั้งแต่วันนี้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในทุกจังหวัดก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนานอำเภอรับผิดชอบ โดยเฉพาะจ.สมุทรปราการและจ.สมุทรสาครต้องทำให้ลดลงให้ได้ ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมอาจต้องผิดโรงงานในช่วงเช้า บ่าย หรอเย็น ในช่วงpm สูง จึงขอให้เตรียมตัวไว้ จะบอกตนไม่เอาใจใส่ไม่ได้แล้ว ซึ่งคอยดูว่าจะมีอะไรกลับมาหรือไม่ จะยอมและเสียสละกันหรือไม่ ขอให้รณรงค์ให้หยุดวันละชั่วโมงก็ยังดี และใช้อำนาจคสช.ให้กอ.รมน. พลเรือน ตำรวจและทหารเข้าไปตรวจสอบทุกโรงงาน ตนขอสั่งตั้งแต่วันนี้ หากพื้นที่ใดไม่ได้รับการดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ วันนี้ปัญหาคือทุกโรงงานมีกฎหมาย TOR ที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหามลพิษอยู่แล้ว แต่ในโรงงานเก่าไม่ได้แก้ไขจึงต้องปรับปรุง ซึ่งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องต้องคุยกันว่าจะมีระเบียบกฎหมายรวมหรือไม่ว่าโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมดต้องทำอย่างไรในภาพรวม ในด้านการจราจรและการเกษตรว่าจะแก้ไขปัญหาในภาพรวมอย่างไร รวมถึงการเผาวัชพืชต่างๆ ซึ่งมีกฎหมายทุกตัวและต้องเอาจริงเอาจังเรื่องนี้ ตนไม่ได้รังแกใคร แต่ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการกำจัดวัชพืช

"เดี๋ยวผมจะออกไปกำกับของคสช. ไม่ใช้มาตรา 44 เพราะมาตรา 44 มีอำนาจอยู่แล้ว โอเคไหม พอใจไหม ต่อไปนั่งรถคนเดียวก็ไม่ได้ต้องมีเพื่อนนั่งรถ 2-3 คน เอาสิครับ ด่าผมดีนักว่าทำไมอย่างนี้ไม่ทำ ไอออกมาเป็นเลือด ผมจะทำให้ ต่อไปนี้ไปไหนชวนเพื่อนไปด้วยนั่งรถไปด้วยกัน แท็กซี่ต่อไปนั่งรถรายเดียวไม่ได้ต้องลากคนขึ้นไปด้วย 2-3 ที่หมาย ทำแบบนี้ เดี๋ยวจะไปทบทวนว่าทำได้หรือไม่ได้แต่วันนี้สั่งก่อนให้กอ.รมน. ทหารทุกคนไปตรวจทุกโรงงาน น้ำเสีย ขยะ การทำมลพิษจี้มา รายงานผมขึ้นมาจะลงโทษหน่วยงานในพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและ 76 จังหวัด มีใครคัดค้าน ไม่เห็นชอบบ้าง ผมถือว่าเห็นชอบ ดังนั้นเวลามีอะไรย้อนกลับมาช่วยผมด้วยแล้วกัน บอกดีครับ นายกฯทำไปเลยครับตลอด ผมรักนายกฯ สนับสนุนแรงใจให้ตลอด พอมีเรื่องกลับมาก็ไปแล้ว ผมไม่ว่าอะไรขำๆดี ยินยอมอยู่แล้วใครว่าอะไรผม"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ย้ำว่าไม่อยากทำให้เกิดความขัดแย้งและคนเดือดร้อน ซึ่งยากในการบริหารราชการแบบนี้ โดยเฉพาะท่ามกลางกระแสการเลือกตั้งยิ่งไปกันใหญ่ แทนที่จะไปว่ากันที่นโยบาย กลายเป็นตอนนี้ทุกพรรคมีนโยบายร่วมกันโจมตีรัฐบาลก็แปลกดีเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรสู้ได้จะทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด"