ข่าวนายกฯสอนรบ.คิดงานต้องรู้วิธีทำ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แต่ตัวเอง - kachon.com

นายกฯสอนรบ.คิดงานต้องรู้วิธีทำ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แต่ตัวเอง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตไทย อนาคตเรา :Our County Our Future โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนขอเตือนไว้ว่าไม่ว่าใครคิดงานใหญ่อะไรออกมา อย่าคิดแต่เป้าหมายต้องรู้วิธีทำด้วย ทำงานใหญ่ต้องทำงานเล็กได้ด้วย ไม่ใช่สั่งอย่างเดียวแต่ต้องรู้รายละเอียดทุกกระทรวง ทุกรัฐบาลต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่ชี้นำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองอย่างเดียว จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เพราะมีผลต่อยุทธศาสตร์ชาติในอนาคตด้วย หากทำงานเล็กไม่เป็นก็อย่าทำงานใหญ่ ไม่ใช่ทำแต่นโยบายใหญ่อย่างเดียว นี่คือการทำงานของรัฐบาลนี้ แม้จะยากที่จะทำให้คนกว่า 70 ล้านคนปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ต้องทำให้คนเคารพกฎหมายให้ได้ หากไม่ทำสอนเรื่องนี้ก็แก้ปัญหาอื่นไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เสน่ห์ของไทยคือการมีอัตลักษณ์ มีความเป็นไทย แต่หลายคนพยายามทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป ซึ่งเห็นหลายคนที่พูดกันในเวลานี้ ดังนั้นอะไรที่ดีควรรักษาไว้ เพราะเป็นรากเง้าของประเทศไทย หากลืมไปหมดจะยุบตรงนั้นรือจะรื้อตรงนี้แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร หากไม่รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยเราก็จะไม่รู้จะรักประเทศได้อย่างไร เพราะไม่รู้ว่าตัวเองมาจากไหน จำคำพูดนี้ไว้ ที่ยกตัวอย่างต่างประเทศแล้วด่าประเทศตัวเอง ตนคิดว่ามันใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามหลายเรื่องที่ทำไปแล้วมีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยให้เวลาเสียเปล่า ขณะเดียวกันตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาได้ทำเรื่องผังเมืองได้ครบทุกจังหวัด ซึ่งการทำงานใหญ่อะไรก็ตามต้องดูงานเล็กด้วย และต้องฟังความเห็นของประชาชนด้วย 

ขณะที่หลายคนรังเกียจทหาร ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าวันนี้อยู่มาอย่างไร คนที่ไม่ชอบทหารไปนั่งอยู่ชายแดนกับตนเองหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสบายนัก หากไม่มีทหารชายแดนหรือในภาคใต้จะเกิดอะไรขึ้น ที่พูดกันรู้จริงหรือไม่ คนดีก็มีเยอะ คนไม่ดีก็มีอยู่ ก็ต้องนำคนไม่ดีออกไป ไม่ว่าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ หากไม่มีทหารลองคิดดูว่าหากเกิดภัยพิบัติจะเอาใครไปช่วยเหลือ จึงขอให้ช่วยกันพูด หากไม่ช่วยกันพูดก็จะไม่เข้าใจกันทั้งสิ้น หากใครเข้าใจก็ช่วยกันพูดและไม่ต้องพูดเอาใจ แต่ขอให้พูดความจริงจะได้ช่วยลดปัญหาและความขัดแย้งได้บ้าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ความร่วมมือในลักษณะที่เราต้องมองอนาคตของประเทศ คือต้องร่วมมือได้อย่างเดียวคือลักษณะประชารัฐ ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคใครทั้งสิ้น และเรื่องนี้พูดมา 3 ปีแล้ว เอามาโยงกันตลอด จึงอยากให้เข้าใจคำว่าประชารัฐคือทุกคนร่วมกัน ได้แก่ รัฐ เอกชน และประชาชน แต่เหลือเพียง เอ็นจีโอ ตนไม่ทราบว่าจะเชิญอย่างไร ซึ่งเมื่อวันก่อนมีการคัดค้านพื้นที่การสร้างเขื่อน ที่ทุกคนต้องการน้ำ และต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยนำโครงการลงไป แต่มีการค้านจากคนนอกพื้นที่ มาเดินขบวนหน้าทำเนียบรัฐบาล ทั้งหมดเป็นความยากง่ายในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะเดียวกัน 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลลดการเยียวยาเหลือแค่จำนวนพันล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อนหลายหมื่นล้านบาททุกปี การพัฒนาแหล่งน้ำ ทำมากกว่า 4 รัฐบาลที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการเมืองเข้ามาโจมตีเรื่องทุจริตตกต่ำ จึงต้องดูว่าองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติมีเกณฑ์การวัดอย่างไร อะไรที่มันดีมันแย่ ก็ต้องไปแก้ในสิ่งที่มันแย่ หากพูดไปก็กล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ก็เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมามีการติดคุกไปเท่าไหร่รัฐบาลนี้ ก่อนหน้านี้มีการติดคุกแบบนี้หรือไม่ ซึ่งเรื่องการทุจริตต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมายใครผิดว่าไปตามผิดตนไม่เคยก้าวล่วงดังนั้นต้องรับผิดชอบกันเอง เรื่องใดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเราไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้อยู่แล้ว แม้กระทั่งบุคคลใดที่ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะตนมีหน้าที่ให้โอกาสทุกคนในการทำหน้าที่ของตนเอง ใครจะฟ้องใครก็ฟ้องไป ตนไม่เกี่ยว เดี๋ยวหาว่าลงโทษคนนี้ไม่ลงโทษคนนั้น ไม่เช่นนั้นจะเสียหายทั้งประเทศ เพราะศาลและกระบวนการยุติธรรมตัดสินคนทั้งประเทศ และคนที่อยู่ในคุกทุกวันนี้ศาลตัดสินทั้งนั้น ทำเฉพาะคนเฉพาะพวกหรือ ไม่เช่นนั้นก็มองว่าไม่เป็นธรรมหมด คนที่ติดคุกไปแล้วก็ไม่เป็นธรรมใช่หรือไม่ 
 
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการลาออกของ 4 รัฐมนตรี อีกว่า รู้สึกเสียดายที่รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี(ครม.) ลาออกไป 4 คน เพื่อไปทำงานในส่วนของตัวเองต่อไป

ทั้งนี้ การปาฐกถา​ของนายกรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีมีอารมณ์ฉุนเฉียว​ นำมือเคาะโพเดียม​หลายครั้ง ซึ่งนายกฯก็ชี้แจงว่า วันนี้ตนอารมณ์ดีมาตั้งแต่เช้า แต่บังเอิญเปิดเจอโทรทัศน์อยู่ช่องหนึ่ง พูดจาไร้สาระ บางทีพูดแล้วรู้สึกแย่ หากเป็นแบบนี้ประเทศไทยก็ไปไหนไม่ได้ เพราะเลือกข้างชัดเจน เหมือนไม่เอาประเทศไทย อีกทั้งเมื่อเช้ามีคนพูดถึงเรื่องกระจายอำนาจ อยากกระจายให้หมด ไปดูความพร้อมก่อน มันอาจจะใช่แต่จะใช่เวลานี้หรือเปล่า เมื่อเช้ามีหาเสียงออกมาจะให้ทุกจังหวัดเลือกตั้งผู้ว่าฯให้หมด ไปดูว่าปัญหาอยู่ตรงไหนดีหรือไม่ดี เราต้องชี้แจงให้ได้ด้วย และอย่าไปดูว่าจะให้เงินกี่บาทแต่ต้องดูคุณภาพ ไม่ใช่เพียงสร้างวาทกรรมให้เกิดความพอใจโดยไม่สนใจงานเล็กๆ.