ข่าว'บิ๊กอู๋'รุดเซ็นอนุสัญญาC188 คุ้มครองแรงงานประมง - kachon.com

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่สำนักงานองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวง เข้ายื่นสัตยาบันอนุสัญญาILOฉบับที่ 188ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง พ.ศ.2550 (ค.ศ.2007) ต่อนายกาย ไรเดอร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ILO โดยพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวถึงเจตจำนงของรัฐบาลไทยในการให้สัตยาบันอนุสัญญา ฉบับที่ 188ว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานมีกระบวนการรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง ภาคประชาชน ภาควิชาการ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าการให้สัตยาบันจะเป็นประโยชน์ทั้งกับแรงงาน นายจ้าง และภาพลักษณ์ของภาคประมงไทยและสินค้าประมงไทย การให้สัตยาบันอนุสัญญาดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของไทย ในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองการทำงานบนเรือประมงของทั้งแรงงานไทย และแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ประมาณ 61,000 คน ให้ดีขึ้นและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมไปถึงป้องกันความเสี่ยงที่แรงงานจะตกอยู่ในสภาพแรงงานบังคับ เนื่องจากอนุสัญญาดังกล่าวจะช่วยสร้างหลักประกันให้เกิดสภาพการทำงานที่มีคุณค่าแก่แรงงานประมง อาทิ การกำหนดชั่วโมงการทำงาน คุณภาพที่พักอาศัย ระบบการตรวจแรงงาน และความเป็นอยู่บนเรือประมง ซึ่งจะช่วยดึงดูดแรงงานให้เข้ามาทำงานในภาคประมงมากขึ้น



พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวอีก ทั้งนี้อนุสัญญาดังกล่าวยังมีส่วนความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการปลดใบเหลืองจากการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยได้ผลักดันการทำงานเพื่อระดับการคุ้มครองแรงงานในภาคประมงควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาไอยูยูมาโดยตลอด  ซึ่งเชื่อว่าการลงอนุสัญญาฉบับที่ 188 จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไทยได้รับการเลื่อนลำดับประเทศที่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จากจากเทียร์ 2 ต้องเฝ้าจับตามอง มาอยู่เทียร์ 2 แสดงถึงการยอมรับต่อความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาไอยูยู ของไทย 



ด้านนายกาย ไรเดอร์  ผู้อำนวยการใหญ่ ILO กล่าวขอบคุณและแสดงความยินดีตอนหนึ่งว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยได้เข้ายื่นสัตยาบันอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 188 ในครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความสำคัญในการคุ้มครองแรงงานประมง ทั้งนี้ ILO พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยที่แสดงถึงความเข้มแข็งในการคุ้มครองแรงงานประมงครั้งนี้ ซึ่งทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติขึ้นไป นอกจากนี้ ILO ยังได้ให้การสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยอย่างเต็มที่ในการทำกิจกรรมในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในครั้งนี้อีกด้วย อย่างไรก็ตามในโอกาสที่ครบรอบ 100 ปี ของ ILO และจะมีการจัดการประชุมใหญ่ในเดือนมิ.ย.2562 จึงขอเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเกียรติในการเข้าร่วมประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานดำเนินการให้สัตยาบันอนุสัญญา C188 ซึ่งไทยจะเป็นประเทศแรกในอาเซียน และในภูมิภาคเอเชีย ที่ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาฉบับดังกล่าว หลังจากนี้ทางรัฐบาลจะมีการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้รองรับกับอนุสัญญา ฉบับที่ 188  ให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการร่างกฎหมายในขั้น สนช. คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี และจะมีการบังคับใช้ภายในปี 2562.