ข่าว'บิ๊กตู่'พ้อเบื่อหน่ายคนโยงปัญหาฝุ่นพิษตีกินการเมือง - kachon.com

'บิ๊กตู่'พ้อเบื่อหน่ายคนโยงปัญหาฝุ่นพิษตีกินการเมือง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึง การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ว่า มาตรการเรื่องของการใช้ยานพาหนะหรืออื่นๆ ตนไม่อยากออกข้อบังคับเพิ่มเติมเพราะมีกฎหมายปกติควบคุมอยู่ ดังนั้นหากประชาชนเห็นว่ามีรถยนต์ปล่อยควันดำสามารถส่งหลักฐานให้หน่วยงานรัฐได้ทันที ขออย่าโพสต์โซเชียลเรื่อยเปื่อย เพราะอาจสร้างปัญหาขึ้นอีก  อย่างไรก็ตามวันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบโรงานพบบางที่เป็นควันขนาดใหญ่แต่ไม่ใช่ PM 2.5 ที่ทำให้เกิด PM 2.5 มีเพียงไม่กี่โรงงาน ขณะที่ในถนนบางที่ก็ไม่เกิน แต่เมื่อไปตรวจใต้สะพาน ตรวจถนนด้านล่างเกิดจากการลอยต่ำมาอยู่ข้างล่าง ดังนั้นปัญหาสำคัญมาจากรถและการจราจร หากให้ใช้รถประจำทางก็บอกไม่เพียงพอรถไฟฟ้าก็ยังไม่เสร็จ ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ปริมาณ PM 2.5 ก็เป็นแบบเดิม 



พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือ และให้เสนอมาว่าอยากให้ตนทำอะไร แต่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าทำแบบนี้แล้วจะเสียอะไรหรือใครเดือดร้อนบ้าง ซึ่งรัฐบาลคิด 2 ทางเสมอและคำนึงถึงประชาชนเป็นส่วนใหญ่ หากเมื่อไหร่ที่มีปัญหามากขึ้นก็ต้องประกาศสถานการณ์ใหม่ อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมร่วมกันโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกรมควบคุมมลพิษ รวบรวมมาตรการ 1-3 และมาตรการที่ 4 ที่จะยกระดับเป็นภัยพิบัติขึ้นมาทันที ถามว่าต้องการให้ถึงขนาดนั้นหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวด้วย จึงต้องคำนึงถึงอย่างอื่นด้วย ตนเบื่อหน่ายกับการที่ออกมาพูดอะไรเป็นประเด็นการเมือง เพราะไม่ใช่ปัญหาเพิ่งเกิดเวลานี้ แต่มีมาทุกปี แต่รัฐบาลนี้ให้ทุกคนรับทราบสถานการณ์เป็นอย่างไร ขณะที่เมื่อก่อนไม่เคยแจ้ง พอมีตัวเลขให้เห็นก็ตกใจและตื่นตระหนกกัน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีแพทยสมาคมระบุการสูบบุหรี่ส่งผลให้เกิดปัญหามากกว่าโรงงานกับรถยนต์ดีเซลว่า ตอนนี้ลดสูบบุหรี่ไปแล้ว ผู้สูบบุหรี่รายใหม่ลดลงหรือไม่ แต่ไม่สามารถห้ามไม่ให้สูบบุหรี่เลยได้แต่ในพื้นที่สาธารณะได้ห้ามสูบอยู่แล้ว มีกฎหมายอยู่แล้ว จึงขอให้ช่วยเตือนให้ลดการสูบบุหรี่ ช่วยกันลดpm 2.5 วันนี้ผู้ผลิตยาสูบก็เดือดร้อน ทำอะไรก็มีผลกระทบอีกอย่างเสมอ รัฐบาลคิดแก้ปัญหาข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้จะทะเลาะเบาะแว้งกัน



พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.โหม  ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จะมีการประชุมเมื่อใด ว่า “จะพยายามแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”

ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร ว่า  นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตรสั่งการแล้ว โดยพล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้  เพื่อดูว่าแต่ละหน่วยงานจะลงไปทำอย่างไรเพื่อทำให้ปัญหาในขณะนี้ดีขึ้น และจะให้ภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนช่วยร่วมแก้ปัญหาซึ่งอย่างไร  โดยนายกฯเข้าใจตรงนี้แล้วดันให้ภาคประชาสังคมเข้าไปช่วย ตนเชื่อว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหาได้ โดยเบื้องต้นหน่วยงานที่เข้าไปแก้ปัญหาขณะนี้ จะพยายามปรับไม่ให้กระทบกับประชาชนมากที่สุด  และเท่าที่มีการประเมินเบื้องต้นพบว่าได้ผลพอสมควร  ส่วนมาตรการเร่งด่วนที่จะใช้ ตอนนี้เขาได้ดูเรื่องการก่อสร้าง การจราจร การรณรงค์เกี่ยวกับการใช้รถ  อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ไปดึงสต๊อกหน้ากากอนามัย N95 จากโรงพยาบาลมาส่วนหนึ่ง  ซึ่งต้องระมัดระวังด้วย เพราะทางโรงพยาบาลก็ยังต้องใช้ แต่ขณะนี้ นายกฯจัดระบบแล้ว และจะมีการทยอยแจก ซึ่งเป็นเรื่องของทางกรุงเทพฯเป็นหลัก และฝ่ายความมั่นคงจะเข้าไปช่วยเสริม ขณะเดียวกัน ปัญหาเรื่องฝุ่นก็ต้องไปดูว่ากระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้ชะงักไปด้วยหรือไม่



เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นโจมตีนายกฯและรัฐบาล จะมีผลกระทบไปถึงพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ซึ่งเตรียมเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์  อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ก็ธรรมดา เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียง และเป็นช่วงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ นายกฯต้องอดทนรับฟัง และต้องระวัง รวมถึงต้องปรับ เพราะการเมืองมีทุกด้าน อะไรที่ไม่จริงก็ต้องชี้แจง และอะไรที่มีช่องว่างก็ต้องแก้ไข



ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มอบหมายให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกประสานการปฏิบัติและให้การสนับสนุนทุกส่วนราชการเร่งคลี่คลายภาวะฝุ่นละอองในขณะนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมสั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำเขตในพื้นที่กทม. และปริมณฑล จัดรถยนต์บรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร พร้อมกำลังพลออกปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำ และล้างทำความสะอาดพื้นถนน ทางเท้า ป้ายรถเมล์ ต้นไม้ ในพื้นที่ กทม. ทั้ง 50 เขต ในช่วงกลางคืนระหว่างเวลา 20.00-22.00 น. และ 14.00-06.00 น. เป็นประจำทุกคืน การปฏิบัติในบางพื้นที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่เขต กทม. โดยเฉพาะพื้นที่สำนักงานเขตที่มีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน



พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ​นอกจากนี้กองทัพบกได้จัดชุดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ ในทุกจังหวัดออกพบปะพูดคุยขอความร่วมมือกับประชาชนในชุมชนต่างๆ เกษตรกร  ผู้ประกอบการให้ตระหนักถึงภาวะฝุ่นละออง พร้อมขอความร่วมมืองดเผาวัสดุและผลิตผลทางการเกษตร เช่น นาข้าว ข้าวโพด  ไร่อ้อยในห้วงเวลานี้ด้วย ​สำหรับการป้องกันและควบคุมภาวะมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมนั้น  กองทัพบก โดย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบ อาทิ สำนักงานขนส่งจังหวัด  อุตสาหกรรมจังหวัด  กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้มงวดในมาตรการและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ โดยร่วมกันจัดตั้งจุดตรวจมลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ตามเส้นทางสำคัญ รวมถึงการตรวจสอบสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรม ให้ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย.