ข่าว'อนุทิน'ข้องใจกระทรวงแรงงานปล่อยคนทำงานมาเสี่ยงชีวิต - kachon.com

'อนุทิน'ข้องใจกระทรวงแรงงานปล่อยคนทำงานมาเสี่ยงชีวิต
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุหัวข้อ “ทำงานที่บ้านwork from home ลดจราจร ลดฝุ่นพิษ” ว่า โลกยุคใหม่  โลกออนไลน์อยู่ที่ไหน ก็ทำงานได้ ต้องเอาเทคโนโลยีดิจิทัล มารับใช้มนุษย์ ไม่ใช่เอามนุษย์ไปรับใช้เทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน ไม่เห็นด้วยกับการให้ทำงานที่บ้าน หรือ work from home ตามที่พนักงาน เรียกร้อง เพื่อป้องกันสุขภาพ ในภาวะฝุ่นพิษห่มคลุมกรุงเทพมหานคร ถ้าตนเป็นรัฐบาลผมจะให้ทำงานที่บ้าน ด้วยระบบออนไลน์work from home คือ ระบบการทำงานที่มีการศึกษาวิจัยแล้วว่า จะทำให้ได้ปริมาณงาน และคุณภาพงาน มากกว่าการทำงานที่สำนักงาน เพราะไม่ต้องเสียอารมณ์ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทำงาน

“ยิ่งในช่วงเวลาที่มีมลพิษทางอากาศแบบนี้ เดินออกจากบ้าน ก็เสี่ยงชีวิต เสี่ยงเจ็บป่วยแล้วกระทรวงศึกษาธิการ ให้เด็กนักเรียนหยุดเรียน แต่ กระทรวงแรงงาน ไม่ให้ผู้ปกครองทำงานที่บ้าน เป็นการสร้างภาระใหม่ให้ประชาชนพ่อแม่ ออกจากบ้านไปทำงาน แต่ ลูกหลานหยุดเรียน ต้องอยู่บ้านดูแลตัวเอง เป็นความยุ่งยากอีกแบบ ของครอบครัวพ่อแม่ ก็ต้องจับลูกใส่รถ มาที่ทำงานด้วย เหมือนเวลาปิดเทอมเด็กๆ ก็ยังต้องออกมาเสี่ยงชีวิตกับฝุ่นพิษ ต่อไปถ้าเราปรับตัวเองให้ทันกับโลกออนไลน์เราจะรู้ได้เลยว่า การทำงานทุกวันนี้ อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้”นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า  ตนเสนอให้ไปทำงานที่ออฟฟิศ สัปดาห์ละ 4 วัน อีก 1-2 วัน ทำงานที่บ้าน เพื่อลดปริมาณจราจร และ ลดฝุ่นพิษ ได้ ร้อยละ 20 เริ่มกันที่ หน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจ ทุกหน่วย ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งใครไม่ทำ ผมทำ ถ้าประชาชนให้โอกาสผมทำ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวของนายอนุทิน  ยังแนบลิงค์จากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง โดยเนื้อข่าวยืนยันว่า กระทรวงแรงงาน ยังไม่ยอมให้ลูกจ้างหยุดงาน เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่ สามารถดูแลและป้องกันตัวเองได้จากฝุ่นพิษซึ่งแตกต่างจากเด็กที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้  

ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นพิษสูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ว่า พรรคเพื่อไทยเคยพูดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานไปแล้ว เป็นการพูดบนพื้นฐานทางวิชาการ ไม่ได้หวังให้เป็นเรื่องการเมือง มีหลายหน่วยราชการพิจารณาคำแนะนำก็ต้องขอขอบคุณ ปัญหาฝุ่น PM2.5 เกิดมาเรื่อยๆแต่ไม่นานนัก คราวนี้เกิดมาก เกิดนาน และจะยาวไปถึงเดือนก.พ.ทั้งเดือน หากอิทธิพลความกดอากาศสูงยังแผ่มาคลุมกทม. ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษในกทม.อย่างเร่งด่วน 1.ปัญหาค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน ปัญหาหนึ่งเกิดจากการใช้น้ำมันดีเซลและเครื่องยนต์เก่าที่มีการสันดาปไม่สมบูรณ์ รัฐต้องมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยการลดภาษีและค่อยๆลดรถยนต์ดีเซลที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ ผลิตน้ำมันในตระกูลไบโอดีเซลออกใช้โดยเร็วที่สุด เริ่มจาก B -20 มีเป้าหมายที่ B-100 ขณะเดียวกันภาครัฐต้องเข้มงวดการตรวจสภาพรถยนต์ของขสมก. หากต้องเปลี่ยนระบบรถขสมก..ให้ปลอดมลพิษ ก็ต้องทำ ส่วนรถบรรทุกวิ่งใช้ในกทม. ใช้มาตรการเข้มงวด หากตักเตือนแล้วไม่ฟัง ให้มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นยึดรถ 

2.การก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ก่อให้เกิดฝุ่นหยาบขนาด P.10 ซึ่งแตกเป็น P 2.5 ได้อย่างรวดเร็ว จึงขอให้ห้ามการก่อสร้างในเวลากลางวัน ให้ก่อสร้างในเวลากลางคืนไปถึงสิ้นเดือนมีนาคม 3. ห้ามโรงงานประเภทที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองหรือควันหยุดปฏิบัติงานในเวลากลางวันไปจนสิ้นเดือนมีนาคม และรวมไปถึงวัดบางแห่งที่มีการเผาศพจำนวนมากต่อวันด้วย 4. ตึกที่มีความสูงเกิน 20 ชั้น ให้ใช้สเปรย์น้ำ จากชั้นสูงสุดในทั้ง 4 ทิศทาง ตามเวลาที่ทางราชการจะประกาศ โดยทางราชการต้องจัดหาปลายสูบขนาดจิ๋วให้  5.เคร่งครัดการติดตามข้อบังคับของ EIA หรือรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ทั้งก่อนการก่อสร้าง และระหว่างการก่อสร้าง 6. ศึกษาความเป็นไปได้ ในการสร้างหอคอยขนาดใหญ่ สี่มุมเมือง เพื่อฟอกอากาศเป็นการเร่งด่วน


นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานส.ส.กทม. กล่าวว่า การที่กทม.สั่งให้โรงเรียนกว่า 430แห่งหยุดการเรียนการสอน แต่อีกหลายโรงเรียนไม่หยุด ขอเสนอให้กทม.ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ หากจะปิดควรปิดทั้งระบบ ทั้งโรงเรียนในความควบคุม สพฐ. สช. วิทยาลัย มหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้ปลอดฝุ่นละอองจากการเดินทาง ไม่อยากให้กระทบไปถึงด้านการท่องเที่ยว หากยังมีค่ามลภาวะอากาศเป็นพิษ จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมา นอกจากนี้ในปัจจุบันยังพบว่า มีผู้ป่วยไปรักษาโรงเกี่ยวกับทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ ที่ไม่แข็งแรง มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ.