'หนูนา'หนุน'บิ๊กตู่'อยู่ต่อแม้มีชื่อในบัญชีนายกฯ
การเมือง
เมื่อถามว่า พื้นที่จ.สุพรรณบุรี มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะได้ ส.ส.ทั้ง 4 เขต ในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญจะต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะพื้นที่จ.สุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่บ้านเกิดที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ดูแลมาเป็นอย่างดี และที่สำคัญที่ทำให้พื้นที่จ.สุพรรณบุรี เจริญถึงทุกวันนี้เพราะพรรคได้ส.ส.ยกจังหวัดมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นฐานะที่เป็นลูกนายบรรหาร และในฐานะหัวหน้าพรรคจะทำแบบนายบรรหาร ให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความขยันของเรา และประชาชนจ.สุพรรณบุรีที่จะไว้ใจทายาทของนายบรรหาร ให้ดูแลทุกข์สุขเพื่อให้จ.สุพรรณบุรี เจริญอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามถึง มีความกดหรือไม่ในการก้าวเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้ง น.ส.กัญจนา กล่าวว่า จริงๆ ไม่เคยกดดันอะไร พยายามทำให้ดีที่สุดและปล่อยวาง หน้าที่ของเราคือตั้งใจทำ และทำให้ดีที่สุด ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่างนอกเหนือจากสิ่งที่เราควบคุมได้ สิ่งที่เราทำได้คือ ต้องพยายาม ดังนั้นยืนยันว่าการทำหน้าที่นี้ไม่มีความหนักใจ
เมื่อถามว่ามีความพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ ฐานะที่เป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ตนขอตอบว่าแค่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเกินความคิดฝัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะเป็นนายกฯ เพียงแค่ว่าพรรคเสนอชื่อหัวหน้าพรรคอยู่ในบัญชีแคนนิเดตนายกฯ เป็นไปตามครรลอง ส่วนมีความพร้อมหรือไม่ตนไม่ขอตอบคำถาม เพราะทุกอย่างเหนือความคาดหมายอยู่แล้ว ขนาดเป็นหัวหน้าพรรคยังอยู่เหนือความคาดหมาย
เมื่อถามต่อถึง ความชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐ จะส่งเทียบเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีตอบรับ คิดว่าจะทำให้เกิดผลกระทบกับพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มองอย่างนั้นเพราะพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในฐานะผู้นำรัฐบาล คงจะรู้ขอบเขตของการทำหน้าที่ และคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ได้ช่วยใครหาเสียง หรือเอาผลงานของรัฐบาลไปเป็นผลงานของพรรคการเมืองที่เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้คงไม่มองว่าเป็นความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพียงแต่ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐมาเชิญ และพล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับ ส่วนภายหลังที่พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับนั้น จะต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่ากรณีของพล.อ.ประยุทธ์มีข้อแตกต่างจาก 4 รัฐมนตรี รวมถึงนายกฯ หากลาออกจะกระทบกับรัฐมนตรีทั้งคณะ และไม่มีใครสามารถบริหารบ้านเมือง
"พรรคชาติไทยพัฒนาถ้อยทีถ้อยอาศัยกับทุกพรรคการเมือง เพราะหลักของพรรคมองทุกคนเป็นมิตร เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองอยากนำเสนอนโยบายที่ทำให้ประเทศชาติดีทั้งนั้น ดังนั้นจะขอเป็นพันธมิตรกับทุกพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนเลือกตั้งแน่นอนต้องสู้กัน แล้วหลังเลือกตั้งค่อยมาว่ากัน การเลือกตั้งไม่จำเป็นที่ทำให้ใครเป็นศัตรูกัน เราเป็นคนไทยเหมือนกัน" น.ส.กัญจนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนานั้น นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ยืนพูดคุยกับนายเสมอกัน เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุพรรณบุรีเขต 4 บุตรชายของนายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย โดยนายเสมอกัน ได้เข้าไปพูดคุยกับนายประภัตร ฐานะเลขาธิการพรรค เพื่อเล่าถึงสถานการณ์แข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่เขต 4 ของตนเองที่มีหลายพรรคการเมือง อาทิ พรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชารัฐ เดินสายหาเสียงในพื้นที่อย่างเข้มข้น ก่อนเตรียมตัวลงสมัคร ในวันที่ 4 ก.พ. นี้ ทั้งนี้การพูดคุยดังกล่าวนานประมาณ 10 นาที
หลังจากพูดคุยแล้ว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าได้พูดถึงกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างนายจองชัย กับนายประภัตรด้วยหรือไม่ นายเสมอกัน เปิดเผยว่า "ผมไม่พูดถึงเรื่องนั้น เพราะเรื่องนั้นเป็นปัญหาของผู้ใหญ่ ที่ผมพูดกับเลขาธิการพรรค คือ สถานการณ์และปัญหาภายในพื้นที่เขต 4 ของผม ซึ่งเลขาธิการพรรค บอกให้เดินเต็มที่"
ด้านนายประภัตร ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันเลือกตั้ง เขต 3 ที่นายจองชัย จะลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่า "ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้".