ข่าวปชป.ชูไอเดียกู้ฝุ่น แจกหน้ากาก-ใช้รถยนต์ไฟฟ้า-เพิ่มพื้นที่สีเขียว   - kachon.com

ปชป.ชูไอเดียกู้ฝุ่น แจกหน้ากาก-ใช้รถยนต์ไฟฟ้า-เพิ่มพื้นที่สีเขียว  
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.  ที่โรแรมมิราเคิล แกรนด์  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดทั่วประเทศ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ขอให้กำลังใจทุกฝ่ายที่ทำงานในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และถือเป็นโอกาสที่จะมองว่าวิกฤตครั้งนี้คือสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนที่สุดว่ากระบวนการพัฒนาประเทศไม่สามารถดำเนินการไปตามกรอบเดิมๆได้ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ขอเสนอนโยบาย “อากาศสะอาด” เพื่อมุ่งเป้าลดฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเบ็ดเสร็จ และยั่งยืน พร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะกลางและระยาว เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งระบบ  โดยในระยะสั้นหรือเร่งด่วนคือ รัฐบาลควรจะกระจายหน้ากากให้ประชาชนได้ทั่วถึง เพราะขณะนี้แม้บางหน่วยงานได้นำหน้ากากมาแจก แต่เป็นการทำเฉพาะในที่ตั้งของตัวเอง  และควรหารือกับกรมศุลกากรให้สามารถนำเข้าหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองจากต่างประเทศมาได้โดยไม่เสียภาษี  และมีมาตรการตรวจสอบไม่ให้นำมาจำหน่ายในราคาที่สูงเกินไป อีกทั้งควรระงับโครงการก่อสร้างต่างๆไว้ชั่วคราว เพื่อบรรเทาไม่ให้ปัญหานี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องกำหนดทิศทางนโยบายให้ชัดเจน เพราะมีการคาดการณ์หลังจากนี้ไปทุกปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเผชิญปัญหาสภาวะอากาศที่ทำให้เกิดความหนาแน่นของฝุ่นพิษซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย คือ รถยนต์ขนส่งที่ใช้พลังงานดีเซล  โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ในที่โล่ง รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองที่มาจากประเทศอื่นด้วย ดังนั้นเราต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์พัฒนา และกำหนดแนวทางและแผนที่ชัดเจน  โดยในส่วนของรถยนต์ กรณีของรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลควรติดตั้งเครื่องกำจัดไอเสียดักเขม่า ซึ่งต้องเริ่มทำทันทีกับรถยนต์ของหน่วยงานภาครัฐ 

ขณะที่กรณีของรถยนต์ของภาคเอกชนนั้น รัฐบาลควรออกมาตรการภาษีจูงใจผู้ประกอบการภาคการขนส่ง อาทิ รถบรรทุกหรือรถเชิงพาณิชย์ต่างๆ ให้ติดตั้งเครื่องกำจัดไอเสียดักเขม่าด้วยเช่นกัน รวมถึงจะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษียานยนต์ให้สัมพันธ์กับการก่อมลพิษที่เกิดขึ้นในกรณีของส่วนบุคคลโดยผ่านกลไกการต่อทะเบียนและภาษีสรรพสามิต นอกจากนี้จะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ยานยนต์ที่เป็นระบบไฟฟ้าให้มากขึ้น เริ่มจากรถยนต์ของหน่วยงานภาครัฐ และรถขนส่งสาธารณะ รวมถึงควรกำหนดเงื่อนไขในการสัมปทานว่าผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะจะต้องเสนอใช้ยานยนต์ระบบไฟฟ้า โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ไปสร้างภาระกับผู้บริโภคและขอสนับสนุนจากรัฐในการตรึงราคาค่าโดยสาร ส่วนการปรับเปลี่ยนรถที่เหลือให้มาใช้ระบบไฟฟ้า ควรมีมาตรการจูงใจ อาทิ ระบบภาษี การจัดหาสถานีเติมไฟให้มีจำนวนเพียงพอ การเรียกประชุมผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเพื่อกำหนดวันให้ชัดเจนตั้งเป้าให้มีการใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ



“ส่วนการผลิตไฟฟ้านั้น พรรคยืนยันว่าไม่สนับสนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติมทุกกรณี และเรียกร้องให้ทบทวนแผนพลังงานที่กำลังพิจารณาอยู่ ให้เน้นใช้พลังงานไฟฟ้าที่สะอาดมากกว่ากำไรขาดทุน ส่วนการผลิตอุตสาหกรรมจะต้องมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจสอบมลพิษอัตโนมัติ ไม่ควรรอให้มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจและไม่ควรออกใบอนุญาตให้โรงงงานที่ก่อมลพิษ รวมถึงไม่ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สนับสนุนผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษในกทม.และปริมลฑล  ส่วนปัญหาเผาไหม้ในพื้นที่โรง เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องเข้าไปให้ข้อเสนอหรือสนับสนุนเกษตรกรเช่น เครื่องจักร รถตัด หรือสนับสนุนให้เพิ่มมูลค่า เช่นผลิตก้อนฟาง และมาตรการครบวงจรในระยะยาว”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนราชการที่เวนคืนแต่ยังไม่มีการใช้ประโยชน์ควรมีการปลูกต้นไม้ และพื้นที่ของเอกชนที่รกร้างว่างเปล่าควรใช้มาตรการภาษีให้ปรับเป็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะภาษีที่ดิน อย่างไรก็ตาม ปัญหาฝุ่นพิษไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุในประเทศไทยเท่านั้น เราจึงควรใช้โอกาสที่จะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำอาเซียนในปีนี้กำหนดวาระ “อากาศสะอาดในอาเซียน” ในหัวข้อหลักของการประชุม เพราะหลายประเทศในอาเซียนก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน อีกทั้งเราขอเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการในส่วนที่สามารถที่ทำได้ในขณะนี้ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนและสร้างปัญหาอย่างเคร่งครัด และต้องลงโทษสถานหนัก” นายอภิสิทธิ์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์จัดปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัครส.ส. 500 คน แบ่งเป็นระบบเขต 350 คน และว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน  โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจ  ขณะที่บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีทั้งแกนนำพรรค ว่าที่ผู้สมัครส.ส. พร้อมผู้ติดตามมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง อีกทั้งได้มีการเปิดเพลงใหม่สำหรับใช้ในการหาเสียง ชื่อเพลง"ประชาธิปัตย์มาแล้ว 2562" ซึ่งเป็นการนำเพลง"ประชาธิปัตย์มาแล้ว" ที่เคยใช้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 มา ปรับทำนองมาใช้ดนตรีแนวลูกทุ่งผสมแร็พ และเปลี่ยนเนื้อเพลงบางส่วนโดยเพิ่มสาระสำคัญของนโยบายแต่ละด้านของพรรค ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ว่าที่ผู้สมัครต่างปรบมือไปด้วย

ทั้งนี้ หัวหน้าและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เน้นย้ำกับบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.ถึงแนวทางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และค่าใช้จ่ายในการหาเสียง โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไม่กระทำการใดๆที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกคู่แข่งจับผิดหรือนำไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง.