ชทพ.เดินตามรอยเท้า'มังกรเติ้ง' เป็นมิตรกับทุกพรรค
การเมือง
“เราจะเห็นทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาลต้องมีการปรึกษาท่านบรรหาร โดยท่านเป็นคนอ่อนน้อมไม่เคยโอ้อวดว่าพรรคหรือตัวท่านเป็นคนเก่ง อันเป็นสร้างรากฐานให้พรรคมีแต่มิตรโดยไม่มีศัตรู ทั้งหมดจะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองนี้เป็นพรรคเก่าแก่และมีครอบครัวศิลปอาชาคอยสนับสนุนมาตลอด โดยเฉพาะที่วันนี้มีทั้งท่านกัญจนาและท่านวราวุธ” นายประภัตร กล่าว
นายประภัตร กล่าวอีกว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาหลายคนปรามาสว่าพรรคนี้จะล่มสลาย ดังนั้นทุกคนต้องให้กำลังใจหัวหน้าพรรคในฐานะแม่ทัพใหญ่ และนำพาพรรคชาติไทยพัฒนาให้ตลอดรอดฝั่ง หัวหน้าพรรคเป็นคนอดทนอดกลั้นแต่ยังยิ้มได้ เพราะแม่ทัพใหญ่ทำเพื่อพวกเราทุกคน โดยไม่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อให้ทุกคนปรองดอง ตลอดระยะเวลา 2 เดือนหลังจากนี้จะเป็นการวัดใจกัน ถ้ารักนายบรรหารอย่างไรก็ต้องรัก น.ส.กัญจนา อย่างนั้นเช่นกัน
จากนั้นน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเปิดการปฐมนิเทศตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะประเทศไทยไม่เคยเว้นการเลือกตั้งนานเท่ากับครั้งนี้มาก่อน พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นคนพูดจริงทำจริงและไม่พูดเยอะ แต่เมื่อพูดออกมาแล้วจะต้องทำได้จริง พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่นายบรรหาร ปฏิบัติมาตลอด อย่างไรก็ามการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่พรรคส่งผู้สมัครสส.มากที่สุดเท่าที่พรรคเคยเลือกตั้งมา พรรคมั่นใจในความสามารถของผู้สมัครส.ส.ทุกคน จึงขอให้ทุกคนขยันลงพื้นที่พบประชาชนและนำเอานโยบายของพรรคลงไปในพื้นที่ ซึ่งเรามั่นใจว่านโยบายของพรรคสามารถแก้ไขปัญหาได้
“หลายคนจับตามองว่ากัญจนาจะนำพรรคลงเลือกตั้งอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่พรรคลงเลือกตั้งโดยไม่มีพ่อบรรหารแล้ว มรสุมเมื่อครั้งที่พ่อเป็นนายกฯทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น วันนี้ไม่มีพ่อก็จริง แต่ได้ทิ้งเลือดนักสู้เอาไว้ให้กับลูก ที่พูดออกมาทั้งหมดก็อยากให้กำลังใจสมาชิกพรรคทุกคนว่าเราสามารถเติบโตจากศูนย์ได้ เหมือนกับพ่อบรรหารที่ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง แต่ก็สามารถสู้และเป็นนายกฯได้ พวกเราหลายคนก็อาจมาจากศูนย์เหมือนกัน จึงอยากให้ดูพ่อบรรหารเป็นตัวอย่าง " น.ส.กัญจนา กล่าว
ทั้งนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า สำหรับแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 7 ด้าน” เพื่อใช้ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด “การเกษตรทันสมัย มีเงินใช้ทุกครัวเรือน” ด้วยการส่งเสริมการทำงานของอาสาสมัครเกษตรหมู่บบ้าน (อกม.) คนละ 1000 บาทต่อเดือน และทุนเรียนฟรีสำหรับการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเกษตร
2.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านการศึกษา ภายใต้หลัก “ได้เรียนในสิ่งที่ใช่ ได้ใช้ในสิ่งที่เรียน ไม่เปลี่ยนไปตามการเมือง” โดยมีคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้แทนภาคการศึกษา ผู้แทนภาคปรชาชน และผู้แทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายการศึกษา โดยรมว. ศึกษาธิการทุกคนต้องขับเคลื่อนตามแผนการศึกษาอย่างน้อย 4 ปี แต่หากจำเป็นต้องปรับปรุงแผนดังกล่าว จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการศึกษา 3.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านสังคม ภายใต้หลัก “สร้างสวัสดิการให้ทุกวัน ใส่ใจกับผู้ด้อยโอกาส” ทั้งนี้ กำหนดให้มีกองทุนมรดกเงินล้าน ทุนสำรองยามยาก เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ด้วยการให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุน สมทบเงินกองทุนครั้งแรก ต้องทำพินัยกรรมให้ทายาทผู้รับมรดก และเมื่อสมาชิกสะสมเงินเข้ากองทุนมาตลอด ต่อมาเกิดเสียชีวิต ทายาทมีสิทธิได้รับมรดกตามที่กองทุนกำหนดสูงสุด 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินสมทบและระยะเวลาที่ส่ง โดยสามารถนำเงินที่สมทบเข้ากองทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้นอกจากนี้ เมื่อสมัครและสมทบเงินเข้ากองทุนตามที่กองทุนกำหนด จะสามารถยืมทุนสำรองยามยากได้ 5,000 บาท มีดอกเบี้ยร้อยละ 6ต่อปี เมื่อชำระเงินยืมทุนสำรองยามยากครบ จะมีสิทธิยืมทุนสำรองยามยากต่อไปอีกเพิ่มปีละ 5,000 บาท สามารถยืมทุนสำรองยามยากสูงสุด 25,000 บาท
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า 4.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านสาธารณสุข ภายใต้หลัก “สร้างสุขภาพเชิงป้องกัน การหาหมอรอไม่นาน” โดยให้มีการตรวจสุขภาพฟรีปีละหนึ่งครั้ง สนับสนุนการทำงานและเพิ่มค่าตอบแทนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) คนละ 1,500 บาทต่อเดือน 5.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านกระจายอำนาจ จัดเพิ่มงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อการลงทุนในพื้นที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นที่ขาดแคลนอย่างน้อย 10 ล้านบาท 6.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศ เพื่อการสร้างงานสร้างรายได้และความอยู่ดีกินดีของประชาชน โดยจะสนับสนุนให้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาแหล่งท่องเที่ยวเดิม และ 7.แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านพัฒนาเมือง ปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน ให้สะดวกรวดเร็ว ขยายรถไฟฟ้าไปชานเมืองและต่างจังหวัด และเพิ่มทางลัด สร้างสะพานใหม่ แก้ปัญหาจราจร และผลักดันการทำให้เมืองสะอาด หายใจได้เต็มปอด