ร้องศาลรธน.ขอยกเลิกกฎหมายเอาผิดหญิงทำแท้ง
การเมือง
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม กล่าวว่า มีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องการยุติการตั้งครรภ์ ดังนั้นต้องขับเคลื่อนให้เขาเข้าถึงทางเลือกและบริการต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ยกเลิกมาตรา 301 ตามประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่าหญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนเองแท้งลูก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะแม้ว่าปลอดภัยแต่อาจถูกจับได้ นอกจากนี้ได้ขอให้ปรับปรุงมาตรา 305 ที่ระบุว่า หากเป็นการกระทำของแพทย์ จำเป็นต้องเนื่องจากสุขภาพของผู้หญิง หรือตั้งครรภ์จากการทำผิดกฎหมาย เช่น การข่มขืน ให้ถือว่าไม่มีความผิดนั้น แต่ก็มีการจับแพทย์ที่ให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีแพทย์อาสา ถูกตำรวจตั้งข้อหาแล้ว 2 คน เพราะมีการตีความเรื่องมีผลต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์เฉพาะทางกาย แต่ไม่รวมสุขภาพทางจิต โดยอ้างว่าข้อบังคับของแพทยสภา ที่ระบุเรื่องปัญหาสุขภาพทางจิตสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้นั้น ไม่ใช่กฎหมาย ทั้งนี้ เรื่องนี้ศาลได้รับคำร้องแล้ว
เมื่อถามถึงการช่วยเหลือแพทย์ที่ถูกดำเนินคดี พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า จะมีการประสานไปยังทางตำรวจว่า การดำเนินงานของแพทย์อาสานั้นมีการขึ้นทะเบียนกับทางกรม และมีแนวปฏิบัติในการดำเนินการชัดเจนที่เป็นมาตรฐาน และจะทำลิสต์รายชื่อแพทย์เครือข่ายที่กรมฯ รับรองในการดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย เพื่อให้ตำรวจได้ตรวจสอบหรือมาพูดคุยกันก่อน.