ทษช.ซัดพปชร.จัดฉากลิเกเทียบเชิญ'บิ๊กตู่'
การเมือง
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันจะไม่ลาออก เชื่อจะไม่เกิดความได้เปรียบ โดยอ้างยุคนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้เลือกตั้ง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของพรรคเพื่อไทย ว่า เปรียบเทียบกันไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์เองก็แพ้มาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ที่สำคัญรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ถูดพูดถึงว่า ไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อีกทั้งขณะนั้นรัฐบาลนายอภิสิทธ์ เป็นรัฐบาลรักษาการณ์อยู่ในความควบคุมของกตต. แต่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาโดยการรัฐประหาร ร่างกติกา และใช้อำนาจสูงสุดใช้อำนาจเต็มถึงปัจจุบัน
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า เป็นการแสดงให้ดูเหมือนมีเงื่อนไข จะได้พูดได้ว่าจะไปร่วมพรรคไหนต้องดูก่อนว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่ความจริงแล้วกินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง เพราะเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายสั่งการให้รัฐมนตรีของตนเองไปตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาตั้งแต่ต้น และเขียนกติกาต่างๆให้พรรคการเมืองที่มีอยู่เดิมเสียเปรียบ มีโอกาสเป็นรัฐบาลน้อยลง ใช้ชื่อพรรคการเมืองซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ลดแลกแจกแถมไม่หยุด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯโดยมีพรรคพปชร.เป็นกำลังสำคัญ หนีความจริงยังไงก็หนีไม่พ้น และคนก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อยู่ที่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์รับเป็นแคนดิเดตนายกฯแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะทำตัวเป็นนายกฯรักษาการหรือไม่ ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับพล.อ.ประยุทธ์เอาเปรียบในการเลือกตั้งครั้งนี้ และจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสรี และไม่เป็นธรรม
เมื่อถามว่า มีคนแนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์กลับไปคิดให้ดีๆว่าควรรับหรือไม่ควรรับตำแหน่ง เพราะถ้ายิ่งอยู่ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์จะมาเป็นนายกฯเป็นยุทธศาสตร์ของคสช. และพล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ตั้งใจมาตั้งแต่ต้น และไม่มีทางออกอย่างอื่น เพราะจะให้คนอื่นมาเป็นก็ไม่ได้ ดังนั้น จะไปแนะนำให้เขาถอยคงจะยาก ส่วนที่ว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์รับเป็นแคนดิเดตนายกฯแล้วจะทำให้คะแนนนิยมของฝ่ายพปชร.แย่ลงก็มีส่วนที่เป็นจริง แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนใจ.