ข่าว'มาร์ค'อ้อนคนเมืองจันท์ เข้าคูหาต้องรักเดียวใจเดียว - kachon.com

'มาร์ค'อ้อนคนเมืองจันท์ เข้าคูหาต้องรักเดียวใจเดียว
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.เวลา 09.00น.ที่จังหวัดจันทบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบปะพี่น้องประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์และคณะได้เดินเข้าไปทักทายบ้านนางสมพร ดุลณกิจ ภรรยาอดีตอธิบดีอัยการ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน ก่อนจะเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียน และเชิญชวนแม่ค้า พ่อค้า ประชาชน ในตลาดห้วยสะท้อนให้มาร่วมฟังปราศรัยของพรรคฯ บริเวณหน้าตลาดฯ พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้กับ พรรคประชาธิปัตย์ และนายชาติชาย วรพิพัฒน์ (กำนันชาติชาย) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 2 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาด ตลอดทั้งพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนเข้ามาขอกอดและขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ พร้อมกล่าวว่า “นายกฯมาแล้วๆ รู้สึกดีใจ ที่นี่ยังไม่มีพรรคการเมืองใดมาเดินพบปะพี่น้องประชาชน เหมือนประชาธิปัตย์”



จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า พรรคฯพยายามค้นหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ และมีอุดมการณ์ ที่จะมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อประชาชน และการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศว่าจะเอาพรรคการเมืองใดเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปและในวันที่ 4 ก.พ.นี้ผู้สมัครของพรรคฯจะเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบเขต ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียว หมายความว่ากาใบเดียวนั้นแปลว่าเลือกทั้งพรรคและคน ซึ่งในจังหวัดหนึ่งผู้สมัครพรรคเดียวกัน อาจจะได้คนละเบอร์ ดังนั้นประชาชนต้องดูให้ดี แม้จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกันแต่ก็จะเป็นคนละเบอร์ และเมื่อมีบัตรใบเดียวการลงคะแนนเสียงครั้งเดียว จึงหมายความว่าการเลือกคนของประชาธิปัตย์ก็แปลว่าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และทุกคะแนนจะถูกนับรวมเป็นคะแนนของพรรคฯ ดังนั้นการลงคะแนนเสียงครั้งนี้ต้อง “รักเดียวใจเดียวรัก” ทั้งคนและพรรค ทุกคะแนนเสียงนับเป็นคะแนนของพรรคทั้งสิ้น



“เศรษฐกิจบ้านเมืองย่ำแย่ทุกวันนี้ เนื่องจากเรามีผู้บริหารที่อยู่ห่างไกลประชาชนแต่ประชาธิปัตย์มีความชัดเจน ตลอดระยะ 5 ปี พรรคทำงานไม่มีวันหยุด ครั้งนี้เราก็มีนโยบาย แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งพรรคเชื่อว่าประชาชน คนส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้ดี เศรษฐกิจของประเทศก็เดินได้ ถ้าเรายังคงเลือกคนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ สุดท้ายก็กลับเข้าไปอยู่ในวังวนเดิม เพราะฉะนั้นประชาชนต้องช่วยกันนำพาบ้านเมืองของเราออกจากวังวนเดิมๆให้ได้ ด้วยการเลือกนักการเมืองที่มีความตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประชาชนในวันที่ 24 มี.ค.นี้เลือกทั้งคน ทั้งพรรค “ประชาธิปัตย์ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”นายอภิสิทธิ์ กล่าว.