ข่าว'ชาติไทยพัฒนา'หาเสียง'พิษณุโลก-กำแพงเพชร'อาสาแก้ปัญหาปากท้อง  - kachon.com

'ชาติไทยพัฒนา'หาเสียง'พิษณุโลก-กำแพงเพชร'อาสาแก้ปัญหาปากท้อง 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.  น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา  พร้อมด้วยผู้บริหารพรค ลงพื้นที่จ.พิษณุโลกและกำแพงเพชร พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครจ.พิษณุโลกทั้ง 5 เขต ได้แก่ เขต1.นางสาวพัชรี เอี่ยมอ่อน เขต2.นายวีระ สุวรรณภูมิ เขต3.นายนิติวัช ดอนตุ้มไพร เขต4.นายปิยณัฐ ดอนตุ้มไพร และเขต5.น.ส.กนกวรรณ ศรีภิรมย์ โดยน.ส.กัญจนา กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมมารับใช้พี่น้องชาวพิษณุโลก แก้ปัญหาพืชผลการเกษตรปัญหาเศรษฐกิจ ที่ได้รับรู้มาว่าปัญหาปากท้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งในวันที่  24 มี.ค.นี้ อยากขอให้พี่น้อง ได้ให้โอกาส ให้คนของพรรคชาติไทยพัฒนาได้มารับใช้พี่น้อง และได้พัฒนาพิษณุโลกให้เหมือน จ.สุพรรณบุรี อย่างที่ทุกคนต้องการ



ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า เกือบ 5 ปีแล้วที่เราไม่ได้เดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ทำให้ไม่มีผู้แทนราษฎรช่วยแก้ปัญหาราคาข้าว เราเบื่อแล้วสงครามสาดสีเข้าหากัน แต่เราควรหันมาดูกันว่าทำอย่างไรจะให้เงินในกระเป๋าพวกเรามีมากขึ้น ราคาข้าวดีขึ้น และการเลือกตั้งครั้งนี้กติกาเปลี่ยนไป จังหวัดพิษณุโลก 5 เขตก็ 5 เบอร์ ดังนั้นเมื่อผู้สมัครฯสมัครได้เบอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรีบไปบอกพี่น้องในพื้นที่ให้รับทราบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม  ขอฝากผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนาไว้ให้รับใช้ ขอปักธงพรรคชาติไทยพัฒนาที่พิษณุโลก



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเดินทางไปนมัสการพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกแล้วในช่วงบ่ายจึงเดินทางไปยังจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครจังหวัดกำแพงเพชรทั้ง4เขตได้แก่ เขต1.นางพัทยา เลิศเกิดชัย เขต2.นายไอศูรย์ อินทรังษี เขต3.นางสาวศศิธร ตระกูลศักดิ์ เขต4.นางประนอม มะลิวัลย์ จากนั้นได้ เดินเยี่ยมชมตลาดริมปิง ที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมชากังราว ในอำเภอเมืองพร้อมร่วมกิจกรรมกับกลุ่มแม่บ้าน ก่อนที่จะเดินทางกลับ กรุงเทพมหานครในช่วงค่ำของวันเดียวกัน



ขณะที่น.ส.กัญจนา ให้สัมภาษณ์ถึงวิกฤติฝุ่นพิษ PM 2.5 ว่า เรื่องเร่งด่วนขณะนี้คงต้องเน้นเรื่องการป้องกันในช่วงภาวะเฉพาะหน้านี้ก่อนเป็นหลัก คือ เรื่องการสวมใส่หน้ากากป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีประชาชนบางส่วนที่ไม่มีกำลังซื้อ จึงอยากให้มีภาคธุรกิจช่วยแจกอย่างนี้ให้มากขึ้น รวมถึงภาครัฐก็ต้องช่วยสนับสนุนด้วย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเปิดใจรับฟัง ไม่ต้องมาตำหนิกัน โยนกันไปโยนกันมา แต่ควรหันมาร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน.