กกต.ชี้ชื่อ'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์'เป็นสีสัน คะแนนเพิ่ม-ลดปชช.ตัดสิน
การเมือง
เมื่อถามถึง มองว่าตัวระเบียบของกกต.มีการลักลั่นหรือไม่ เพราะพรรคพปชร.เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยู่ในตำแหน่ง จึงอาจสามารถใช้ผลงานหาเสียง อีกทั้งโครงการต่างๆของรัฐบาลก็สอดคล้องกับนโยบายของพรรคพปชร. นายณัฏฐ์ กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกต้องแยกแยะระหว่างกฎหมายกับความรู้สึก ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบดูยังไม่มีอะไรเข้าข่ายผิดกฎหมาย หากในภายหลังมีผู้มาร้องเรียนเข้ามากกต.ทั้ง 7 จะเป็นผู้พิจารณา ส่วนตัวมองว่าเราวิตกกังวลกันเกินไปหรือไม่ ขณะนี้ประชาชนสนใจการเมืองพอสมควร เพราะทุกอย่างจะไปตัดสินใจกันในวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. กกต.จะไม่พิจารณาประเด็นที่มาจากสื่อ เพราะข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง
เมื่อถามอีกว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯของพปชร.จะต้องยกเลิกการจัดรายการทุกวันศุกร์ และการลงพื้นที่ครม.สัญจรด้วยหรือไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องจัดรายการไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในวิสัยของผู้วินิจฉัย ส่วนการลงพื้นที่ครม.สัญจรได้หรือไม่นั้น ถ้าดูกฎหมายดีๆจะพบว่าการที่บุคคลใดถูกทาบทาม โดยหลักแล้วการที่บุคคลใดถูกทาบทามให้อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคใดไม่บังคับให้เป็นสมาชิกพรรค และต้องไม่กระทบกระเทือนต่อวิชาชีพของเขา เคยประกอบอาชีพใด เคยทำตัวอย่างไรก็ยังสามารถทำได้ ส่วนที่ทำไปแล้วจะมีผลกระทบอย่างไรก็เป็นข้อเท็จจริงของผลกระทบ ต้องว่าเป็นกรณีไป ถ้าบอกว่าเมื่อนาย ก. ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯแล้วจะประกอบสัมมาอาชีพปกติไม่ได้ คงไม่ใช่เจตนารมณ์ของกฎหมาย หากมีผู้ที่คิดว่าได้รับผลกระทบมายื่นคำร้องกกต.จะรับไว้เพื่อวินิจฉัย ส่วนที่สมาชิกพรรคการเมืองเปลี่ยนชื่อเป็นทักษิณ หรือยิ่งลักษณ์ จะเข้าข่ายการสร้างแรงจูงใจหรือไม่ เบื้องต้นการเปลี่ยนชื่อที่คนไทยพึงมีพึงได้ไม่กระทบกับใคร นายทะเบียนที่รับจดเปลี่ยนก็คงพิจารณาแล้ว ไม่ใช่ว่าชื่อนี้จะเป็นชื่อที่ต้องห้าม หากเป็นเช่นนั้นก็จะต้องบังคับห้ามเปลี่ยนกันทั้งประเทศ เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวประชาชนจะเป็นผู้พิจารณา ว่าทำไปแล้วจะได้หรือเสียคะแนน ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนชื่อแล้วจะมีคะแนนขึ้นมา ตนมองเป็นสีสันของการเลือกตั้งที่มีคนคิดไปในเชิงสร้างสรรค์ แต่ผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคส่งผู้สมัครไม่ครบทุกเขตเช่นพรรคหนึ่งส่ง 22 เขต อีกพรรคหนึ่งส่ง 8 เขต จะเข้าข่ายสมยอมกันหรือไม่ว่า นายนายณัฏฐ์ กล่าวว่า ต้องดูกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการที่พรรคการเมืองมีความเป็นนิติบุคคลแยกขาดจากกัน การที่เราไปมองข้อเท็จจริง และเอาเหตุผลส่วนตัวใส่เข้าไปว่าเป็นการสมยอมจริงๆแล้วกลยุทธ์ของเขาอาจมองว่าพื้นที่นี้อาจไม่ได้แล้วจะส่งไปทำไม