'บิ๊กตู่'ลั่นถ้าได้เป็นนายกฯต่อจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
การเมือง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ไม่พอใจรายชื่อผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองที่มีคดีความติดตัวอยู่ในลำดับต้นๆ จะเป็นเงื่อนไจในการตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เรื่องรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ ผมยังไม่เห็นก็แล้วแต่พรรคเขาทำไม่เกี่ยวกับผม เพราะผมยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองเลย เขามีกำหนดการส่งรายชื่อของเขาอยู่แล้ว ทำไมผมจะต้องไปเกี่ยวกับเขาด้วยหล่ะ ประชาชนก็ช่วยกันดูแลหน่อยแล้วกันว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม เราต้องคิดถึงเรื่องการปฏิรูปเรื่องการเมือง การปรองดองสมานฉันท์ เราก็ต้องดูว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองวันนี้ มีใครบ้างที่ปรองดองสมานฉันท์ ไม่ใช่ต่อยตีกันตลอดเวลาก็ไปไม่ได้หมด วันหน้าการเลือกตั้งถึงจะได้รัฐบาลมา จะได้ความเชื่อมั่นหรือไม่ถ้าเรากันเองไม่เชื่อมั่นกันตรงนี้ ทุกคนต้องนึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก”
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ทุกอย่าง ไม่ใช้นิติศาสตร์นำรัฐศาสตร์อยู่แล้ว เราเอากฎหมายมาเป็นตัวตั้ง แต่เราก็ต้องพิจารณาหาทางออก จะทำอย่างไรไม่ผิดกฎหมายและปฏิบัติได้ อย่าคิดว่าออกกฎหมายแล้วกฎหมายจะปฏิบัติได้ ถ้าปฏิบัติไม่ได้กฎหมายที่ออกมาก็ล้มเหลว กฎหมายบางตัวที่ออกมาใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาแต่ละจุด แต่การจะแก้ทีเดียวทั้งระบบอาจจะต้องลดลงบ้าง เอาประเด็นหลักมาก่อน แล้วประเด็นอื่นๆก็มีการแก้กฎหมายได้ทุกรัฐบาลเพื่อให้ดีขึ้น ไม่ใช่เขียนกฎหมายฉบับนี้แล้วจะให้เป็นประวัติศาสตร์ไปเลยคงไม่ใช่ กฎหมายทุกตัวต้องพัฒนาให้ดีขึ้น สร้างผลกระทบให้น้อยที่สุดไม่ใช่เป็นห่วงว่าอำนาจรัฐจะลดน้อยลง แต่ตนเกรงว่าการออกกฎหมายมาเพื่อหวังดีกับคนนี้ รวมถึงมีมาตรการลงโทษต่างๆ แต่มันจะมีผลกระทบกับผู้ที่มีรายได้น้อยไปด้วย ตนคิดละเอียดทุกอัน ไม่คิดเอาง่ายๆ
เมื่อถามย้ำว่าการพิจารณาตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพิจารณาผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายกฯไม่พอใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น เมื่อถามอีกว่า จะต้องนำรายชื่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคมาพิจาณาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับตน เป็นเรื่องของพรรคก็ทำไปสิ ส่วนเรื่องของตนคือ จะไปร่วมให้เขาเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีหรือไม่ สมมุติถ้าตนตอบรับให้พรรคเสนอชื่อ แล้วเป็นนายกฯ ขึ้นมา อะไรที่ต้องทำก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ถึงตอนนั้นก็มีคนมาร่วมรัฐบาลก็คือรัฐบาลอนาคต ถ้าตนได้อยู่ตรงนั้นก็จะทำให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อะไรที่ไม่ดีก็ขอร้องว่าอย่าทำกันอีกเลยต้องสอนคนแบบนี้
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ เผื่อใจไว้สำหรับการไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ผมเผื่อทุกเรื่อง ผมพร้อมทุกอย่างจะทำอะไรก็ได้ ผมก็ติดอยู่อย่างเดียว คือภาระดูแลประเทศชาติมาสามสี่ปีมีอะไรดีขึ้นตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ก็มีอะไรที่ไม่ได้ทำตั้งเยอะตั้งแยะเหมือนกัน อะไรที่ประชาชนคาดหวังก็อยากทำให้ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกตั้งใคร”
เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องนโยบายพรรค สถานการณ์บ้านเมืองถือเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมือง ก็ไม่มีข่าวสารอะไรที่มันทำให้สับสนอลหม่าน ทุกคนก็ร่วมมือกันดี เว้นแต่ถ้ามีใครทำให้วุ่นวายประชาชนก็ไปว่ากันเอาเอง มันต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว จะไปทำอะไรได้ และสถานการณ์วันนี้ถือว่าปกติ อย่าพูดให้มันไม่ปกติ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ว่า ในที่ประชุมครม.ได้พูดคุยหลายเรื่อง ที่สำคัญคือได้กำชับให้ทุกคนดูแลความสงบเรียบร้อย ข้าราชการก็ต้องไม่นิ่งเฉย จะเกียร์ว่างไม่ได้ทั้งสิ้น สิ่งสำคัญคือประชาชนมีความเดือดร้อนอยู่ตรงไหน ต้องเร่งช่วยเหลือทันที เราต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุด เพราะวันนี้ประชาชนคงคาดหวังในสิ่งเดียวกันคือความอยู่ดีกินดี และหวังให้ประเทศเจริญก้าวหน้า และคำตอบนั้นจะเป็นจริงได้ ประชาชนต้องมาร่วมกัน มันจะเป็นความจริงได้ทุกคนต้องมาช่วยกัน ทุกคนคือความหวังของประเทศไทย ประเทศไทยต้องดีกว่าเดิม ดีกว่าเมื่อวาน และต้องมีอนาคตที่สดใส เราต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงมงคล คือวันตรุษจีน ขอให้ประชาชนชาวไทยและจีนมีความสุขในเทศกาลวันตรุษจีน ขอให้เฮงๆมีเงิน มีทองใช้ มีความสุขกันถ้วนหน้า สุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็อวยพรให้กัน แม้เป็นประเพณีนิยมของชาวจีน แต่เรามีเชื้อสายคนจีนในประเทศไทยจำนวนมาก คนไทยอวยพรได้เหมือนกันทุกวาระ ขอให้มีความสุขทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกฯได้ยกเครื่องวัดคุณภาพอากาศมาวัดอากาศบริเวณที่นายกฯ ยืนให้สัมภาษณ์อยู่ โดยนายพร้อมกับกล่าวว่า พอมีคำถาม 2 คำถามตัวเลขก็ขึ้นมา 32 แล้ว.