ข่าวเปิดคำชี้แจงฝ่ายไทย อย่าด่วนสรุป!ขอรอศาลตัดสิน'ฮาคีม' - kachon.com

เปิดคำชี้แจงฝ่ายไทย อย่าด่วนสรุป!ขอรอศาลตัดสิน'ฮาคีม'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กกรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่คำชี้แจงที่อ้างว่ามาจากกระทรวงการต่างประเทศ ต่อการส่งตัวนายฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากประเทศออสเตรเลีย กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ว่า  เสียงเรียกร้องที่ให้ประเทศไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับออสเตรเลียนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่รู้จักนายฮาคีม ไม่มีอคติต่อตัวบุคคล และคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการมาไทยจนถูกคุมตัวจับกุมของนายฮาคีม หากไม่ใช่ตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ของออสเตรเลียที่แจ้งเตือนเรื่องหมายแดงของนายฮาคีมมาแต่แรก และถ้าทางการบาห์เรนไม่ได้มีคำร้องขออย่างเป็นทางการ ให้ไทยจับกุมนายฮาคีมและส่งผู้ร้ายข้ามแดน และขณะนี้เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว ในการเดินตามขั้นตอนของกฎหมาย ฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงฝ่ายตุลาการได้ซึ่งเป็นหลักสากล และเชื่อว่าออสเตรเลียยึดถือหลักการนี้เช่นเดียวกัน

อีกทั้งขออย่าด่วนสรุปว่าไทยจะส่งตัวนายฮาคีมให้กับบาห์เรน เพราะศาลจะพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่ซึ่งมีพื้นฐานจากหมายจับหรือหมายศาลของบาห์เรน เมื่อเขาหนีความผิดตามกฎหมายของบาห์เรน และบาห์เรนขอให้คุมตัวเมื่อมาไทย พร้อมกับส่งเอกสารหลักฐานทางกฎหมายให้ฝ่ายไทย พนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้ จึงดำเนินการต่อไปแล้ว  ขณะเดียวกัน ศาลไทยพร้อมรับหลักฐานทุกชิ้นทุกชนิดที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นธรรมต่อนายฮาคีมที่ทนายของนายฮาคีมจะนำส่งให้ศาลพิจารณา

“ไม่มีส่วนใดของไทยที่จะได้ประโยชน์จากการควบคุมตัวนายฮาคีม แต่ในฐานะรัฐอธิปไตยที่มีพันธะทางกฎหมายและความถูกต้องต่อสังคมโลก ไทยได้มาพบว่าเพื่อนที่ดีของไทย 2 ประเทศเกิดแย่งตัวนายฮาคีมที่มาประเทศไทย โดยเพื่อนคนหนึ่งออกแนวร้องขอความร่วมมือบนพื้นฐานทางกฎหมายและความถูกต้อง แต่เพื่อนอีกคนชอบที่จะอาศัยพื้นฐานทางอำนาจการเมืองและการขยายวงกดดันผ่านแนวร่วม ในภาวะดังกล่าว ไทยมีทางเดินอันชอบธรรมเพียงว่าให้ความร่วมมือทางด้านกฎหมาย และเสนอแนะให้เพื่อนที่ดีทั้งสองนี้ ซึ่งโดยข้อเท็จจริง ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย หันหน้าหารือ หาทางออกในปัญหาซึ่งเป็นของตนเองเสีย แทนการคิดผลักดันหาทางออกทางอ้อมจากไทยซึ่งเผอิญจับพลัดจับผลูมาอยู่ในภาพของประเด็นปัญหานี้ซึ่งเพื่อน 2 ประเทศของไทยมีระหว่างกันมาแต่ก่อน”

ดังนั้น การขอให้ออสเตรเลียกับบาห์เรนพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน จึงเป็นท่าทีโดยชอบธรรมของไทย และไม่ว่าแนวทางออกร่วมกันดังกล่าวจะมาในรูปแบบใด ไทยยินดีที่จะช่วยส่งเสริมให้เป็นจริงและบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่เป็นแบบที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ (วิน-วิน) ทั้งนี้ไทยหวังว่าทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนจะมีมิตรไมตรีที่ดีเพียงพอที่จะจริงใจร่วมกันหาทางออกของเรื่องนี้ หากผลลัพธ์เป็นวิน-วิน เชื่อได้แน่นอนว่าคนไทยและผู้คนในภาคส่วนต่างๆ ของโลกที่รับรู้เรื่องนี้จะสรรเสริญทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า คำชี้แจงข้างต้นถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลและเฟซบุ๊กของรัฐบาลที่ใช้ชื่อว่า “ไทยคู่ฟ้า” เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (5 ก.พ.) แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กลับถูกลบทิ้งไป  ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามกระทรวงการต่างประเทศถึงคำชี้แจงข้างต้นนี้ โดยได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว.