ข่าวเตือนคนท้อง'นวดรีดน่อง'ลิ่มเลือดหลุดวิ่งเข้าปอด-สมอง - kachon.com

เตือนคนท้อง'นวดรีดน่อง'ลิ่มเลือดหลุดวิ่งเข้าปอด-สมอง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.ขวัญชัย  วิศิษฐานนท์ รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีหญิงตั้งครรภ์ อายุ 26 ปี ไปนวดฝ่าเท้าที่ร้านนวดในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ช็อค หมดสติ ต่อมาลูกในครรภ์เสียชีวิต ส่วนตัวหญิงตั้งครรภ์เองก็เป็นเจ้าหญิงนิทรา ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเพียงพอ ทราบว่าเป็นการนวดฝ่าเท้าแต่ไม่รู้ว่าเป็นลักษณะอย่างไร เพราะถ้าแค่นวดฝ่าเท้าเพียงเท่านั้นไม่ค่อยมีปัญหา แต่บางทีร้านนวดบางแห่งมักแถมโดยการนวด รีดกล้ามเนื้อไปตามน่อง ซึ่งเราก็ค่อนข้างกังวล เพราะโดยหลักแล้วหญิงตั้งครรภ์ มดลูกจะใหญ่ขึ้น จะไปกดเส้นเลือดที่อยู่ในท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่ต่อมายังบริเวณน่อง บริเวณขา ทำให้จะมีเลือดไปตกค้างอยู่ ไหลเวียนไม่สะดวก อาจมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในเส้นเลือดได้ หากไปนวดเค้นก็อาจเกิดปัญหา ลิ่มเลือดอาจหลุดออกมาวิ่งไปที่ปอด ที่สมองได้ แต่ตามข่าวนี้ ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ทำให้ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ซึ่งขณะนี้เรากำลังประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) เกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกัน แต่ขอย้ำว่าการนวดกดจุดฝ่าเท้าไม่ได้ส่งผลขนาดนั้น หากกดจุดที่ฝ่าเท้าอย่างเดียว

“เราต้องไปดูก่อนว่า ร้านนวดที่ไปรับบริการเป็นร้านนวดที่ขออนุญาตเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเกี่ยวกับบุคลากร หรือหมอนวด เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมตามมาตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพราะปกติสถานประกอบการที่เป็นร้านนวด หมอนวดต้องผ่านการอบรมหลักสูตรอย่างน้อย 150   ชั่วโมง” นพ.ขวัญชัย กล่าว

นพ.ขวัญชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การนวดไทย เป็นองค์ความรู้จากบรรพบุรุษของเรา ใช้องค์ความรู้มาเป็นพันๆปี ปรากฏในเอกสารกฎหมายตราสามดวง มีตั้งแต่สมัยอยุธยา มีกรมนวดฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา เสนาบดีดูแลกรมนวดมีศักดินาสูง เห็นได้ว่า ในสมัยโบราณก็มีการใช้การนวดไทยในการดูแลสุขภาพของคนไทยมาแต่โบราณแล้ว ซึ่งการนวดไทยจะเป็นการบำบัดรักษาโดยพื้นฐานของเส้นประธานสิบ เป็นเส้นทางเดินของพลังงาน หรือเส้นทางเดินของเลือดและลม เป็นการแก้ไขปัญหาการอุดตัน การเดินไม่สะดวกของลม ดังนั้น ผู้ที่จะเป็นหมอนวดจะทำการบำบัดรักษาได้ ต้องมาเรียนรู้ บนพื้นฐานเส้นประธานสิบ ซึ่งเรามีหลักสูตรเบื้องต้นคือ 150 ชั่วโมง ซึ่งร้านนวดทั้งหลายต้องผ่านหลักสูตรนี้เป็นอย่างน้อย ก็จะเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย ถัดขึ้นไปจะเป็นการนวดเพื่อบำบัดอาการ 20 กลุ่มอาการ 330 ชั่วโมงขึ้นไป และถัดขึ้นไปเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นแพทย์แผนไทยต้องอบรมอย่างน้อย 800 ชั่วโมง และยังมีหลักสูตรต่อยอดขึ้นไปอีก 1.300 ชั่วโมง เรียกว่าเป็นปริญญาเอก ดังนั้นการนวดจึงเป็นเรื่องที่ต้องอบรม ต้องผ่านการรับรอง ซึ่งมีทั้งประโยชน์ และมีความเสี่ยง หากทำโดยคนไม่มีความรู้ก็จะเสี่ยงอันตรายได้

นพ.ขวัญชัย กล่าวว่า ข้อแนะนำหญิงตั้งครรภ์สามารถนวดได้ เพียงแต่ต้องเลือก เพราะเมื่อตั้งครรภ์ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่กระทบกระเทือนต่อสุขภาพได้ จึงต้องเลือกอย่างเหมาะสม ดังนั้น หากอายุครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึง 3 เดือน ไม่ควรนวด เพราะการนวดจะกระตุ้นให้มดลูกรัดตัว เสี่ยงแท้งลูกได้ แต่หากเกิดอาการเจ็บป่วยและจำเป็นต้องนวดจริงๆ ต้องไปนวดกับหมอแผนไทย อย่านวดตามร้านทั่วไป

“ส่วนอายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป มดลูกจะไปกดเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงไปกดในท้อง ในลำไส้ ก็ไม่ควรไปนวดร้านนวดทั่วไปเช่นกัน หากจำเป็นก็ต้องเป็นหมอแผนไทยมีการร่ำเรียนมา 800 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย จึงอยากฝากเตือนหญิงตั้งครรภ์ ปัจจุบันมีร้านนวดเพื่อการผ่อนคลาย จะดูแลโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะมีกฎหมายเฉพาะ ต้องมาขออนุญาตขึ้นทะเบียน ดังนั้น หากเข้าร้านนวดทั่วไป ต้องดูก่อนว่ามีการติดใบอนุญาตหรือไม่ และจะมีรูปถ่าย และใบประกาศนียบัตรของหมอนวดว่า ผ่านการอบรม 150 ชั่วโมงถูกต้องหรือไม่ ส่วนอีกระดับหนึ่ง ที่เป็นคลินิกการแพทย์แผนไทย ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาการนวดไทย ที่หมอแผนไทยต้องแสดงไว้ และใบอนุญาตการเปิด หากไม่มีทั้งหมด ถือว่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ต้องไม่ใช่บริการ เพราะมีความเสี่ยง  สรุปคือ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ช่วงก่อน 3 เดือน และ 6 เดือนขึ้นไปไม่ควรนวด แต่ระหว่างนั้น คือ ช่วง 3 เดือนถึง 6 เดือนอาจนวดได้ แต่ก็ย้ำว่าต้องไปนวดกับแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมเท่านั้น” นพ.ขวัญชัย กล่าว

รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการนวดกล่อมท้อง ก็มีการทำในสมัยโบราณ เพื่อให้เด็กในครรภ์อยู่ในท่าที่เหมาะที่จะคลอด ซึ่งผู้ทำต้องเป็นหมอพื้นบ้าน ที่ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมการแพทย์แผนไทยฯเท่านั้น จึงจะทำได้  แต่ประเด็นการนวดกล่อมท้องคนละประเด็นกับเคสที่เกิดขึ้นที่จ.เชียงใหม่ เพราะเคสเชียงใหม่เขาไปนวดฝ่าเท้า ที่สำคัญการนวดกล่อมท้องก็ไม่ค่อยมีกันมาก เพราะคนทำต้องเชี่ยวชาญกันจริงๆ และมีใบประกอบวิชาชีพ.