ทีมทษช.สุดช้ำ! เจอเซอร์ไพรส์คนสนิท'ทักษิณ'ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์
การเมือง
แหล่งข่าวจากพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า การจัดวางตัวผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อที่ออกมาในครั้งนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะสร้างความประหลาดใจให้กับอดีตส.ส.ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน เนื่องจากที่ผ่านมาหลายคนช่วยงานพรรคมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยเรียกคะแนนเสียงให้กับพรรคได้เป็นกอบเป็นกำ แต่กลับถูกจัดวางไว้อยู่ในลำดับท้ายๆ ขณะที่เด็กๆ รุ่นใหม่กลับถูกวางไว้ในลำดับต้นๆ ซึ่งไม่ต้องมานั่งลุ้น เพราะมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นส.ส.อย่างแน่นอน
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า คนที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดคือ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัครลำดับที่ 6 และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้สมัครลำดับที่ 8 ซึ่งทั้ง 2 คนถือว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่มีความใกล้ชิดกับลูกๆ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างมาก โดยอดีตส.ส.บางคนถึงกับบอกว่า ทั้ง 2 คนจะสามารถเรียกคะแนนให้กับพรรคได้ขนาดไหน นอกจากนี้ แม้แต่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค ก็ยังถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 7 ซึ่งต่ำกว่านางสาวขัตติยา ทั้งๆ ที่เป็นแม่ทัพออกหาเสียงไปทั่วประเทศ แบบนี้มันไม่ถูกต้อง เหมือนไม่ให้เกียรติกัน เอาคนหาเสียงให้พรรคไปอยู่ท้ายๆ แล้วเอาคนหาเสียงไม่เป็นมาอยู่ต้นๆ หลายคนข้ามหัวกันไปหมด บางคนแทบไม่รู้จักหน้า เจอหน้ายังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่กลับมีรายชื่ออยู่ลำดับต้นๆ
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า มีอีกหลายคนที่ถูกมองว่าจัดวางลำดับไม่เหมาะสม อาทิ นายนิคม ไวยรัชพานิช ลำดับที่ 18 นายประภัสร์ จงสงวน ลำดับที่ 26 นายสุธรรม แสงประทุม ลำดับที่ 28 นายก่อแก้ว พิกุลทอง ลำดับที่ 29 นายพายัพ ปั้นเกตุ ลำดับที่ 41 นพ.เหวง โตจิราการ ลำดับที่ 55 และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ลำดับที่ 56 ซึ่งทุกคนล้วนช่วยพรรคหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับต้องมานั่งลุ้นว่าคะแนนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์รอบนี้จะถึงลำดับของตัวเองหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าต้องใช้บุคคลที่มีประสบการณ์มาช่วยพูดในสภาฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหากดูจากรายชื่อแล้วคงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย
"ถ้าคิดแค่ว่าจะเอาคนใกล้ชิดหรือเพื่อนลูกๆ มาเป็นส.ส. ก็ลองให้ลงพื้นที่ไปหาเสียงกันเองดูบ้าง อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะมีคะแนนกลับมาหรือเปล่า ลงพื้นที่แล้วมีชาวบ้านรู้จักบ้างไหม อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่เริ่มแสดงความไม่พอใจแล้ว โดยเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ลำดับท้ายๆ ก็ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ร่วมประชุมกับพรรค แต่พวกเราก็คงได้แต่บ่น คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ถือว่ากระบวนการมันจบไปแล้ว มีการยื่นบัญชีรายชื่อให้กับกกต.ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เชื่อว่าหลังจากนี้คนที่ไม่พอใจคงจะออกอาการเกียร์ว่าง เพราะคงไม่มีใครอยากช่วยงานแล้ว หรือไม่ก็ลาป่วยยาวๆ กันหลายคน"แหล่งข่าวกล่าว.