ข่าวเลขาฯส.ป.ก.เร่งยึดคืนสวนปาล์มเกือบ8,000ไร่จ.กระบี่  - kachon.com

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน(คปก.)ได้ประชุมเพื่อพิจารณากรณี พ.ต.ท.มล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งรัดการกำหนดให้ที่ดินบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด บุกรุกครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปโดยมิชอบด้วยกฏหมาย เนื้อที่ 7,186 ไร่ 3 งาน 78ตารางวาเป็นพื้นที่เป้าหมายตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 โดยบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด บุกรุกครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปโดยมิชอบด้วยกฏหมายและใช้อิทธิพลอย่างต่อเนื่องไม่ยอมออกจากพื้นที่ จึงให้ส.ป.ก. เร่งรัดนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้เข้าทำกินตามนโยบายรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันเหตุการณ์บานปลายและแก้ไขข้อพิพาทในพื้นที่มีมายาวนาน

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือสรุปความเห็นจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นประคณะกรรมการที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) เรื่องการบุกรุกครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินในตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ ประกอบด้วยร่างแผนที่แนบท้ายประกาศคำสั่ง (คสช.) ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ทั้งนี้บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) บุกรุกเข้าครอบครองทำประโยชน์ปลูกปาล์มน้ำมันในเขตป่าสงวนแห่งชาติในที่ดินของรัฐ แปลงที่ ร. 9 ตั้งแต่ปี 2524 ซึ่งกรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ส.ป.ก. แล้ว โดยผู้ครอบครองไม่ยอมออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านหลายกลุ่มบุกรุกเข้าไปจับจองที่ดิน จนเกิดความขัดแย้งและใช้ความรุนแรงระหว่างกัน 

ทั้งนี้คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายได้ประชุมกันและมีมติให้ดำเนินการเป็น 2 แนวทางคือ พื้นที่สีเขียว เนื้อที่ 4,900 ไร่ ซึ่งเคยจัดที่ดินในพื้นที่แล้วนั้นให้ฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อกระบวนการฟ้องร้องแล้วเสร็จ จะพิจารณากำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายคำสั่งคสช. ที่ 36/2559 ต่อไป ส่วนพื้นที่สีเหลืองและสีส้ม เห็นชอบให้กำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายคำสั่งคสช. ที่ 36/2559 เพื่อสั่งให้ผู้ครอบครองออกจากพื้นที่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งใดๆ ภายใน 30 วัน เพื่อที่ส.ป.ก. จะได้นำมาจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้เกษตรกรต่อไป

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ระหว่างการแก้ไขปัญหาบุกรุก ส.ป.ก. ได้มีกลุ่มมวลชนหลายกลุ่มบุกรุกที่ดินพิพาท ส่งผลเกิดความขัดแย้งรุนแรงและการใช้อิทธิพลระหว่างกัน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดระบุว่า ทางอำเภอและจังหวัดเข้าไปแก้ไขอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังมีไม่ยุติ ซึ่งตามคำสั่งคสช. ที่ 36/2559 กำหนดให้กองทัพภาค กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก หรือกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมปฏิบัติการตามที่ส.ป.ก. ร้องขอทั้งการเรียกผู้ครอบครองมารายงานตัว ให้ถ้อยคำ แสดงหลักฐานการครอบครองที่ดิน ยึดหรือถอนทำลายสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมถึงให้ออกจากที่ดินเมื่อคทช. จังหวัดมีมติให้สิ้นสิทธิเข้าใช้ประโยชน์ ซึ่งจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด.