ยื่นกกต.ระงับชื่อ'ทูลกระหม่อมฯ' จากแคนดิเดตนายกฯ
การเมือง
ทั้งนี้รายละเอียดในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า พรรคไทยรักษาชาติ โดยกรรมการบริหารพรรค มีมติเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยรักษาชาติ และมีการแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ต่อสื่อฯนั้น เห็นว่าแม้นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้ว ตั้งแต่ปีพ.ศ.2515 แต่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นทูลกระหม่อม ทรงเป็นพระราชธิดา พระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทรงเป็นพระเชษฐภคินีพระองค์เดียวใน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ดังนั้นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จึงทรงเป็นส่วนหนึ่ง ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ดังที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 5 บัญญัติไว้
ดังนั้นการที่พรรคไทยรักษาชาติได้ยื่นเสนอพระนามของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ย่อมต้องมีการนำพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง ของพรรคไทยรักษาชาติ อันเป็นการเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.พ.ศ. 2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งข้อ 17 “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”
ทั้งนี้ในหนังสือดังกล่าวยังระบุ ตอนท้ายว่า ดังนั้นเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน จึงขอเสนอความเห็นมายังกกต.เพื่อพิจารณาและวินิจฉัย การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติว่า เข้าข่ายขัดต่อระเบียบกกต.ดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ หากมีปัญหาขัดต่อระเบียบดังกล่าว ขอให้กกต.สั่งให้พรรคไทยรักษาชาติ ระงับการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ