กรมฝนหลวงฯตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพิ่ม2หน่วยแก้ฝุ่นพิษเหนือ-อีสาน
การเมือง
นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าสุด พบว่าในช่วงวันที่ 10 – 15 ก.พ.นี้ สภาพอากาศมีแนวโน้มเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ดังนั้นกรมฝนหลวงฯ จึงได้ตัดสินใจตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 2 หน่วย ระหว่างวันที่ 10-15 ก.พ.นี้ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดขอนแก่น และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดพิษณุโลก เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เลย ลำปาง แพร่ ตาก และนครสวรรค์ โดยขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ช่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวผลผลิต และสมาคมชาวไร่อ้อย ถึงความจำเป็นในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละออง ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ จะติดตามวางแผนปฏิบัติการอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยวอ้อยอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตามสำหรับการการตรวจวัดสภาพอากาศประจำวันที่ 9 ก.พ.นี้ เพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงสลายฝุ่นละอองในอากาศ PM2.5 บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานีเรดาร์ฝนหลวงสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (สำหรับวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล) สถานีเรดาร์ฝนหลวงตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ (สำหรับวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือบริเวณพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ สระบุรี และอยุธยา) และสถานีเรดาร์โพธาราม จังหวัดราชบุรี (สำหรับวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือบริเวณพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม และราชบุรี) ผลการตรวจอากาศของ สถานีเรดาร์ฝนหลวงสัตหีบ จ.ชลบุรี มีความชื้นที่ระดับการเกิดเมฆ (ระดับการก่อเมฆ) 62 เปอร์เซนต์ ความชื้นที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆ 40 เปอร์เซ็นต์และค่าดัชนีการยกตัวของอากาศ -2.2 ซึ่งความชื้นในระดับบนอยู่ในเกณฑ์ที่มีโอกาสพัฒนาตัวของเมฆได้ค่อนข้างยาก ประกอบกับในช่วงเช้าวันนี้บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยอง จึงขอติดตามคุณภาพอากาศในบริเวณดังกล่าว หากมีปริมาณค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน กรมฝนหลวงฯ จะพิจารณาวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการต่อไป
สำหรับอีก 2 สถานี คือ สถานีเรดาร์ฝนหลวงตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และสถานีเรดาร์โพธาราม จังหวัดราชบุรี ความชื้นที่ระดับการเกิดเมฆ (ระดับการก่อเมฆ) 68 เปอร์เซ็นต์ (ตาคลี) 72 เปอร์เซ็นต์(โพธาราม) ความชื้นที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆ 22 เปอร์เซ็นต์ (ตาคลี) 52 เปอร์เซ็นต์ (โพธาราม) และค่าดัชนีการยกตัวของอากาศ -0.9 (ตาคลี) -2.8 (โพธาราม) ซึ่งความชื้นในระดับบนอยู่ในเกณฑ์ที่มีโอกาสพัฒนาตัวของเมฆได้ค่อนข้างยาก กรมฝนหลวงฯ จึงขอติดตามสภาพอากาศในระหว่างวันต่อไป หากสภาพอากาศเหมาะสม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดนครสวรรค์ จะขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือบริเวณพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และสระบุรีทันที เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังได้รับผลกระทบจากปริมาณค่าฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ที่ยังเกินค่ามาตรฐานอยู่อย่างต่อเนื่อง.